[ae-fb-embed url=’https://www.facebook.com/bungkan.net/videos/2277147375890465/’ width=’500′ autoplay=’true’]
ที่เที่ยวบึงกาฬ อีกหนึ่งจังหวัดน่าเที่ยวของภาคอีสาน เรียนรู้วิถีชุมชน เพลิดเพลินกับธรรมชาติสวย บอกเลยว่าที่บึงกาฬยังมีที่เที่ยวเด็ด ๆ ให้คุณไปเช็กอินอีกเพียบ
1. หินสามวาฬ
ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่อนุรักษ์ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าดงดิบกะลา ป่าภูสิงห์ และป่าดงสีชมพู มีลักษณะเป็นหินขนาดใหญ่ติดหน้าผาสูง แยกตัวเป็น 3 ก้อน มีอายุประมาณ 75 ล้านปี หนึ่งเดียวของโลก เมื่อมองดูจากระยะไกล หินสามก้อนนี้จะดูคล้ายกับฝูงครอบครัววาฬ ที่ประกอบด้วยพ่อวาฬ แม่วาฬ และลูกวาฬ ซึ่งเรียกตามขนาดของหินแต่ละก้อน ทั้งยังเป็นหนึ่งในจุดชมวิวที่สวยที่สุดในภูสิงห์ มองเห็นผืนป่า ทัศนียภาพของป่าภูวัว ห้วยบังบาตร แก่งสะดอก หาดทรายแม่น้ำโขงและภูเขาเมืองปากกระดิง ประเทศลาว สวยงามเกินคำบรรยาย
2. ภูสิงห์
ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่อนุรักษ์ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าดงดิบกะลา ป่าภูสิงห์ และป่าดงสีชมพู โดยเกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงทางธรณีวิทยาของเปลือกโลก เกิดเป็นหน้าผา ถ้ำ และกลุ่มหินรูปทรงต่าง ๆ กระจายอยู่ทั่วพื้นที่ของภูสิงห์ จนเกิดเป็นความงดงามของธรรมชาติที่น่าสนใจ ภูสิงห์มีจุดเด่นทางธรรมชาติที่สำคัญ ได้แก่ ลานธรรมภูสิงห์, จุดชมวิวลานธรรม, จุดชมวิวถ้ำฤาษี, หินช้าง, หินรถไฟ, ลานหินลาย และกำแพงหินภูสิงห์ เป็นต้น เรียกได้ว่ามาเที่ยวภูสิงห์ที่เดียวเที่ยวได้ทั้งวันไม่มีเบื่อ
3. ภูทอก
เป็นที่ตั้งของวัดเจติยาคีรีวิหาร (วัดภูทอก) อยู่ในอาณาเขตบ้านคำแคน ตำบลนาสะแบง บริเวณโดยรอบภูทอกล้อมรอบด้วยทัศนียภาพที่สวยงามและเงียบสงบ และมีสะพานไม้สร้างวนขึ้นไปสู่ยอดเขารวมทั้งหมด 7 ชั้น เพื่อเป็นทางเดินขึ้นไปยังกุฏิและถ้ำที่อยู่ตามหลืบผา จากด้านบนนักท่องเที่ยวจะมองเห็นความสวยงามของภูมิประเทศเบื้องล่างได้ไกลสุดลูกหูลูกตา ยิ่งถ้าในวันที่อากาศแจ่มใส อาจมองได้ไกลถึงเทือกเขาในเขตจังหวัดนครพนมเลยด้วย
4. วัดสว่างอารมณ์
วัดสว่างอารมณ์ หรือ วัดถ้ำศรีธน ตั้งอยู่ในพื้นที่อำเภอปากคาด เป็นวัดที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดบึงกาฬ เป็นวัดที่มีทิวทัศน์สวยงาม มีลำธารเล็ก ๆ ไหลผ่านในบริเวณวัด เต็มไปด้วยก้อนหินน้อยใหญ่ และเงียบสงบ มีโบสถ์ตั้งอยู่บนก้อนหินใหญ่ ถ้ำด้านล่างเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปไสยาสน์ปางปรินิพพาน บริเวณด้านบนก้อนหินเป็นจุดชมวิวแม่น้ำโขงที่สวยงาม รวมถึงยังเป็นสถานที่จัดงานประจำปี ทั้งในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปีใหม่ และออกพรรษา โดยจะมีคนในชุมชนและนักท่องเที่ยวเข้าร่วมเป็นจำนวนมาก
5. น้ำตกถ้ำพระ
ตั้งอยู่บ้านถ้ำพระ ตำบลโสกก่าม อำเภอเซกา ภายในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูวัว ตัวน้ำตกถ้ำพระแบ่งออกเป็น 3 ช่วงหลัก ๆ ได้แก่ ช่วงแรกจะเป็นธารน้ำตกไหลลดหลั่นลงสู่แอ่งน้ำกว้าง (นักท่องเที่ยวคนไหนจะเล่นน้ำตรงส่วนนี้ ควรระมัดระวังเป็นพิเศษ เพราะน้ำจัดได้ว่าค่อนข้างลึกพอสมควร) ถัดมาช่วงกลางของน้ำตก มีพื้นที่ขนาดใหญ่กินพื้นที่ยาวไปจนถึงฝายทดน้ำ น้ำค่อนข้างตื้น และส่วนสุดท้ายเป็นบริเวณเหนือฝายขึ้นไป จุดนี้ถือเป็นไฮไลท์เด็ดของน้ำตก เพราะคุณจะได้เห็นน้ำตกกว้างสีขาวลอยฟูฟ่อง ซึ่งเป็นต้นธารที่ไหลลงสู่แอ่งน้ำเบื้องล่าง จุดนี้จะเห็นนักท่องเที่ยวที่ทั้งขึ้นมาชมน้ำตก และลงเล่นน้ำกันเป็นจำนวนมาก
6. น้ำตกเจ็ดสี
ตั้งอยู่ภายในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูวัว เป็นหนึ่งในน้ำตกสวย ๆ ของบึงกาฬที่เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยว ทั้งยังมีจุดให้นักท่องเที่ยวเล่นน้ำด้วยกันหลายจุด ทั้งยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยว ทั้งส่วนของร้านค้าและเครื่องดื่มมากมาย หากแต่นักท่องเที่ยวควรเพิ่มความระมัดระวัง เพราะเส้นทางเดินค่อนข้างชัน บางช่วงทางเดินค่อนข้างลื่น ดังนั้นอย่าได้ประมาทเวลาเดินเด็ดขาด โดยช่วงที่เหมาะสำหรับการมาเที่ยวน้ำตกเจ็ดสี จะอยู่ในช่วงฤดูฝน-ต้นฤดูหนาว รับรองว่าคุณจะได้ชมน้ำตกสวย ๆ อย่างแน่นอนเลยค่ะ
7. น้ำตกชะแนน
ตั้งอยู่ในท้องที่บ้านเทพมีชัย ตำบลหนองเดิ่น อำเภอบุ่งคล้า ภายในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูวัว เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ที่มีความสวยงามเป็นอย่างมาก ด้วยเพราะสายน้ำของน้ำตกเกิดจากลำห้วยชะแนนไหลหลั่นกันเป็นชั้น ๆ ยิ่งถ้าไปในช่วงหน้าฝน ปริมาณน้ำที่ตกจากหน้าผาเรียกได้ว่าอลังการแบบสุด ๆ เหมือนกับม่านเมฆสีขาวตั้งตระหง่าน เสียงน้ำตกไหลดังกึกก้อง ละอองน้ำกระเซ็นเป็นวงกว้างตามขนาดหน้ากว้างของน้ำตก รับรองว่าสวยงามคุ้มคาแก่การรอคอย
8. น้ำตกตาดกินรี
9. หนองกุดทิง
แหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติที่มีลักษณะเป็นหนองน้ำขนาดใหญ่ ทั้งยังเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำที่ยังคงความเป็นธรรมชาติไว้อย่างแท้จริง อีกทั้งยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำสำคัญระดับโลก (พื้นที่แรมซาร์) แห่งที่ 11 ของประเทศไทย ด้วยเพราะมีความหลากหลายทางชีวภาพ เป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์น้ำหลากหลายสายพันธุ์ รวมถึงนกสายพันธุ์ต่าง ๆ เหมาะสำหรับเป็นที่เที่ยวพักผ่อน เอาไว้ชื่นชมธรรมชาติในวันสบาย ๆ
10. แก่งอาฮง
ตั้งอยู่บริเวณหน้าวัดอาฮงศิลาวาส ถือเป็นจุดที่แม่น้ำโขงมีความลึกที่สุดและจะยิ่งเชี่ยวในช่วงฤดูน้ำหลาก กระแสน้ำจะไหลวนเป็นรูปกรวยขนาดใหญ่ ซึ่งชาวบ้านต่างเชื่อกันว่าเป็น “สะดือแม่น้ำโขง” อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวไว้สำหรับพักผ่อนหย่อนใจ เดินเล่นชิล ๆ อีกทั้งยังเป็นสถานที่เกิดปรากฏการณ์ทางธรรมชาติอย่าง “บั้งไฟพญานาค” ในช่วงประเพณีออกพรรษา ซึ่งแต่ละปีจะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวชมปรากฏการณ์นี้กันเป็นจำนวนมาก
11. ล่องแพหนองเลิง
ตั้งอยู่ในบริเวณหนองเลิง ตำบลดอนหญ้านาง อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวพักผ่อนที่ได้รับความนิยมในช่วงหน้าร้อน มีลักษณะเป็นหนองน้ำขนาดใหญ่ โอบล้อมด้วยทัศนียภาพที่สวยงาม กิจกรรมท่องเที่ยวที่เกิดขึ้นที่นี่ส่วนใหญ่ นักท่องเที่ยวจะลงมาเล่นน้ำเย็น ๆ หรือไม่ก็มาล่องแพ เพื่อหลบอากาศร้อน โดยจะมีแพไว้ให้บริการแก่นักท่องเที่ยว ได้ล่องชมธรรมชาติสวย เพลินตากับบัวแดง บัวขาว และนกนานาชนิด รวมถึงมีอาหารพื้นบ้านอร่อย ๆ ไว้คอยบริการยามหิวอีกด้วยค่ะ
12. บึงโขงหลง
ตั้งอยู่ที่อำเภอบึงโขงหลง ทะเลสาบขนาดใหญ่ที่เป็นพื้นที่อนุรักษ์พันธุ์นก โดยเฉพาะนกน้ำที่ย้ายถิ่นเข้ามาในช่วงฤดูหนาว เรียกได้ว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติที่มีความหลากหลายทางชีวภาพเป็นอย่างมาก ในน้ำก็อุดมไปด้วยสัตว์น้ำนานาชนิด บริเวณบึงยังมีหาดคำสมบูรณ์ที่มีหาดทรายทอดยาวในช่วงฤดูหนาว เป็นแหล่งพักผ่อนและชมวิวทิวทัศน์ มองเห็นภูลังกาเป็นฉากหลัง ซึ่งตั้งตระหง่านอยู่ในจังหวัดนครพนมได้อย่างชัดเจน
13. พิพิธภัณฑ์ชุมชนมีชีวิต
ตั้งอยู่ที่ตำบลหนองพันทา อำเภอโซ่พิสัย พิพิธภัณฑ์เล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่ท่ามกลางวิถีชีวิตชุมชน โดยอาคารเป็นบ้านไม้เก่าแก่รูปทรงอีสานที่มีอายุกว่า 60 ปี และได้นำมาปรับปรุงให้มีสไตล์ที่ร่วมสมัย ที่นี่นักท่องเที่ยวจะได้เรียนรู้วิถีอีสานอินสไตล์ ที่มีกลิ่นอายทั้งเรื่องประเพณี วิถีชีวิต วัฒนธรรม และศิลปะท้องถิ่นผสมผสานกัน ซึ่งเป็นอัตลักษณ์ที่โดดเด่นของชุมชนแห่งนี้ ทั้งยังมีกิจกรรมต่าง ๆ ให้คุณได้ร่วมสนุกอีกมากมาย เปิดให้เข้าชมทุกวันจันทร์-อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 09.00-17.00 น. ไม่มีค่าใช้จ่าย (สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทรศัพท์ 086 229 7626 และเฟซบุ๊ก พิพิธภัณฑ์ชุมชนมีชีวิต จ.บึงกาฬ)
14. หาดทรายขาว
แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่น่าสนใจของจังหวัดบึงกาฬ มีลักษณะเป็นหาดทรายขาวริมฝั่งแม่น้ำโขง เป็นระยะทางยาวกว่า 2 กิโลเมตร โดยทุกช่วงประมาณเดือนพฤศจิกายนของทุกปี ซึ่งเป็นช่วงฤดูน้ำลง จะเกิดเป็นเนินทราย ทอดตัวเรียงยาวตั้งแต่วัดป่าบ้านพันลำเรื่อยไปจนถึงบ้านนาโนน และจะจมหายไปช่วงประมาณเดือนมิถุนายน โดยในช่วงเวลาเย็น ที่นี่จะเป็นเหมือนสถานที่ชุมชนเพื่อทำกิจกรรมต่าง ๆ ทั้งเล่นกีฬา เล่นน้ำ หรือนั่งพักผ่อนชมทัศนียภาพต่าง ๆ เรียกได้ว่าชิลสุด ๆ ไปเลย
15. อุทยานแห่งชาติภูลังกา
ภาพเรือนไทยเกสต์เฮาส์ บึงโขงหลง Thai Guest House
อุทยานแห่งชาติภูลังกาครอบคลุมพื้นที่ของตำบลไผ่ล้อม อำเภอบ้านแพง จังหวัดนครพนม และอำเภอเซกา จังหวัดบึงกาฬ ช่วงฤดูท่องเที่ยวจะอยู่ระหว่างเดือนพฤษภาคม-ตุลาคม ซึ่งเป็นช่วงที่มีดอกไม้ กล้วยไม้ป่า และรองเท้านารีบานสะพรั่งบนยอดภูลังกา ภายในอุทยานมีจุดท่องเที่ยวที่น่าสนใจอยู่หลายแห่ง ทั้งเส้นทางศึกษาธรรมชาติ เที่ยวถ้ำต่าง ๆ เช่น ถ้ำยา ถ้ำพ่อหง่า ถ้ำตาทัด ถ้ำเกีย และถ้ำอาจารย์วัง เป็นต้น หรือจะเป็นน้ำตก เช่น น้ำตกกินรี น้ำตกตาดขาม น้ำตกตาดโพธิ์ เป็นต้น หรือจะเดินทางพิชิตยอดภูลังกา ชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นและตกดิน (สำหรับนักท่องเที่ยวที่จะพิชิตยอดภูลังกา จำเป็นที่จะต้องติดต่อเจ้าหน้าที่อย่างน้อยเป็นเวลา 7 วัน) สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทรศัพท์ 081 725 2684, 084 792 3505
เห็นแล้วหรือยังว่า “บึงกาฬ” มีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจอยู่ไม่น้อยเลย มีธรรมชาติสวย ๆ วิถีชีวิตผู้คนที่น่าค้นหาในแบบฉบับของตัวเอง ว่าง ๆ ลองหาเวลาไปเที่ยวที่บึงกาฬกันดู เราเชื่อเลยว่าคุณจะต้องประทับใจอย่างแน่นอน ^ ^
ขอขอบคุณที่มาhttps://travel.kapook.com/view193799.html‘>