LINE : ติดต่อผู้ดูแล

ยินต้อนรับเว็บไซต์ข่าวสารเพจข่าวท้องถิ่นบึงกาฬ

วันพฤหัสที่ 21 พฤศจิกายน 2024
คอลัมน์วันนี้

ภูทอก บึงกาฬ สวรรค์ 7 ชั้น เที่ยวนี่ต้องไปให้ถึง

ภูทอก บึงกาฬ

พูดถึงภูทอกบึงกาฬต้องมีใครหลายคนอยากไปสัมผัสความเป็นธรรมชาติและความยิ่งใหญ่ของศรัทธาหลังจากมีหลายรายการท่องเที่ยวที่นำเสนอวัดเจติยาคีรีวิหาร หรือวัดภูทอกทำให้หลายคนอยากไปสัมผัสบรรยากาศมุมสูง ผมก็เป็นอีกหนึ่งคนที่อยากมาที่นี่สักครั้ง หลังจากไปตุลยขึ้นภูกระดึงมาแล้วและแล้วโอกาสก็มาถึงเมือสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ (สทน.) ร่วมกับสำนักงานส่งเสริมการท่องเที่ยวกองทัพบก (สง.ทท.ทบ.) จัดทริปโครงการสัมมนาสื่อมวลชนชนสัญจร “สทน. ผสานใจ สง.ทท.ทบ. ภาคอีสาน ปี 55 ซึ่งทริปนี้เราจะสำรวจเส้นทาง กรุงเทพฯ – นครราชสีมา ขอนแก่น อุดร กรุงเทพ ฯ ซึ่งทริปนี้มี ภูทอก บึงกาฬ ผมจะรอช้าได้อย่างไรรับสมัครทันที ทริปนี้ 5 วัน 4 คืน ถือว่าเดินทางเที่ยวอีสานได้เกือบครบทุกจังหวัดเลยก็ว่าได้ โดยทริปนี้มีแหล่งท่องเที่ยวในเขตทหารและวัดดัง ๆ ของอีสานกว่า 10 แห่ง เรียกได้ว่าครบเครื่องทั้งแหล่งท่องเที่ยวทั้งบุญ ทริปนี้ต้องขอขอบคุณ สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ (สทน.) และสำนักงานส่งเสริมการท่องเที่ยวกองทัพบก (สง.ทท.ทบ.) และการท่องเที่ยวของแต่ละจังหวัดที่คอยตอนรับและคอยอำนวยความสะดวก ย้อนกลับมาที่ ภูทอก บึงกาฬกันต่อดีกว่า ชื่อเต็ม ๆ คือ วัดเจติยาคิรีวิหาร (ภูทอก) ตั้งอยู่ที่ หมู่ที่ 6 ต.นาแสง อ.ศรีวิไล จ.บึงกาฬ ซึ่งแยกตัวมาจากจังหวัดหนองคาย ซึ่งบันไดที่เราได้เดินขึ้นไปยังภูทอกนั้น ท่านพระอาจารย์จวน กุลเชฏโฐ เริ่มก่อสร้างในปี พ.ศ. 2512 ใช้เวลา 5 ปี ในการก่อสร้าง

ประวัติการก่อสร้างบันไดขึ้นภูทอก
Phutak ภูเขารุปทรงประหลาดที่ตั้งตรงตระหง่านขึ้นกลางพืนห่า บ้านนาคำแคนพัฒนา ตำบลนาแสง อำเภอศรีวิลัย จังหวัดบึงกาฬ เป็นสุดยอดวิศวะกรรมก่อสร้างมหัศจรรย์อนุสรณ์สถานวิปัสนาของพระอาจารย์จวน กุลเชฏโฐ พระอาจารย์จวน กุลเชฏโฐ ได้รวบรวมแรงศรัทธานำพาเหล่าลูกศิษย์และชาวบ้านช่วยกันสร้างบันไดวนรอบภูทอกแห่งนี้โดยไม่มีวิศวะกรช่วนในการคิดคำนวณไม่มีเครื่องจักรกลใด ๆ ในการก่อสร้างนอกจากแผ่นไม้ ฆ้อน ตะปู ลิ่มและพลังศรัทธาอันแรงกล้าเท่านั้น จนผู้คนที่ได้มาพบเห็นถึงกับต้องตะลึงในความอัศจรรย์ของบันได 7 ชั้น รอบภูทอก สร้างความประทับใจแก่นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวชมภูทอกแห่งนี้ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่อยู่ในดินแดนอันศักดิ์สิทธิ์ ผู้คนที่มาเยี่ยมชมจึงมาด้วยความเคารพเพื่อมุ่งหน้าสู่ยอดภูทอก หนทางที่สร้างไว้ประหนึ่งบันไดขึ้นสูสวรรค์และนิพพาน การขึ้นภูทอกจากชั้นที่ 1 ไปจนถึงชั้นที่ 3 จะเป็นบันไดไม้ไต่ระดับทอดสูงขึ้นไปตามเนินเขา

ด่านแรกที่เราจะเจอก็คือประตูทางเข้าเพื่อเดินทางขึ้นไปยังภูทอกจะมีขอควรปฏิบัติในการขึ้นไปเขียนบอกไว้อย่างชัดเจน

ข้อควรปฏิบัติก่อนขึ้นเขาภูทอก บึงกาฬ
ห้านำสุรา อาหารขึ้นไปทานบนเขาโดยเด็ดขาด ห้ามส่งเสียงดัง ห้าม
ขีดเขียนสลักข้อความลงบนหินหรือทำลามกอนาจาร แต่งกายให้สุภาพ
ผู้หญิงต้องแต่งกายมิดชิด ห้ามนุ่งน้อย ห่มน้อย เสื้อ กระโปรง กางเกงขาสั้น
ห้ามขึ้นโดยเด็ดขาด

ภูทอก บึงกาฬ

ทางเข้าสู่ภูทอกจะทำเป็นซุ้มประตูเหมือนถ้ำเดินลอดเข้าไปเหมือนทะลุมิติสู่ธรรมชาติ บรรยากาศเย็นสบายเพราะช่วงที่ผมไปเป็นช่วงหน้าฝนต้นไม้เขียวขจีสวยงามเลยทีเดียว เราเดินทางกันต่อเลยดีกว่า ช่วงแรกก็เดินเร็วหน่อยพอเริ่มเดินได้สักพักก็จะเริ่มหอบนิด ๆ เพราะทางเดินเริ่มชันขึ้นเรื่อย ๆ

ภูทอก บึงกาฬ

ทางขึ้นถูกสร้างเป็นขึ้นบันไดด้วยแผ่นไม้เป็นขั้น ๆ สลับกับบันไดหินขึ้นไปเรื่อย ๆ การเดินต้องค่อย ๆ เดิน ๆ เร็วอาจทำให้หน้ามืดได้นะครับเพราะเริ่มสูงความดันของอากาศเปลี่ยน

ภูทอก บึงกาฬ

บันไดหิน เอาหินมาตัดทำเป็นขั้นบันไดเพื่อไปสู่ยอดภูทอก บึงกาฬ เห็นที่เราเห็นในบริเวณภูทอก บึงกาฬ เป็นหินทราย สันนิฐานได้ว่าเมื่อ ล้านปีก่อนที่นี้เคยเป็นทางผ่านของแม่น้ำเมื่อวันเวลาผ่านไปน้ำแห้งลงจึงทำให้แผ่นดินแถวนี้มีหินทรายโผ่เป็นภูเขาสูง อยู่มากมาย

ภูทอก บึงกาฬ

ทางขึ้นบางช่วงของ ภูทอกบึงกาฬ ค่อนข้างชันมาก ๆ แต่ก็ด้วยแรงศรัทธาไม่มีอะไรที่จะมาหยุดยั้งได้แม้กระทั่งเด็กตัวน้อย ๆ ก็อย่างขึ้นมาดูมาชมความสวยงามและเงียบสงบของที่นี่ ภูทอก

ภูทอก บึงกาฬ

หนทางสู่ภูทอกอีกยาวไกลครับเดินต่อไปเรื่อย ๆ ถ้าจะให้เต็มอิ่มกับบรรยากาศสวย ๆ ของที่นี่แบบไม่รีบคุณอาจจะต้องใช้เวลาประมาณ ชั่วโมงครึ่งถึงสองชั่วโมงในการเดินชมวิวไหว้พระขอพร ถ่ายรูป ครับ

ภูทอก บึงกาฬ

สำหรับคนที่กลัวความสูงก็ต้องจับราวกันหน่อยนะครับเพราะถ้ามองลงด้านล่างอาจจะเข่าอ่อนเอาได้ครับ แต่ก็ต้องทึ่งในการก่อสร้างของหลวงพ่อจริง ๆ ครับ สร้างบันไดขึ้นไปทีละชั้น ๆ ต้องยกนิ้วให้จริง ๆ ครับ

ภูทอก บึงกาฬ

และแล้วเราก็ขึ้นมาถึงจุดชมวิวที่สวยที่สุดของภูทอก บึงกาฬ กันเสียทีชั้นที่ชมวิวสวยที่สุดก็จะเป็นชั้น 5 ชั้น 6 นะครับ จากนี้ก็หามุมสวย ๆ ถ่ายรูปกันได้เลย ส่วนชั้นเจ็ดถือเป็นจุดสูงสุดเป็นป่ารกร้างครับ

ภูทอก บึงกาฬ

บันไดลอยฟ้าครับทางรอบภูเขาภูทอกที่หลวงพ่อสร้างขึ้นสามารถเดินรอบภูทอกได้เลยเดินไปก็ระแวงไปในใจคิดว่ามันจะพังลงไปไหมหนอ แต่จริงๆ แล้วมันคงทนมาก ๆ ครับ ไม่ต้องกลัวล่วง บริเวณโดยรอบมีวิวธรรมชาติที่สวยงาม

ภูทอก บึงกาฬ

เห็นความสูงของภูทอกแล้ว เสียวไส้จริง ๆ ครับ ค่อย ๆ เดินขึ้นเดินลงนะครับเดี๋ยวหน้ามืด ต้องระวังกันหน่อย

ภูทอก บึงกาฬ

ที่นี่ยังมีสถานที่ที่พระภิกษุ สามเณรใช้ในการปฏิบัติธรรม วิปัสนากรรมฐานอีกด้วยครับ ขึ้นมาแล้วก็ไหว้พระขอพร ทำบุญกันหน่อยเพื่อรักษาไว้ซึ่งพระพุทธศาสนาของเราครับ

ภูทอก บึงกาฬ

บนภูทอกยังมีถ้ำด้วยนะครับภายในถ้ำก็จะเป็นที่นั่งวิปัสนากรรมฐานของพระภิกษุ

ภูทอก บึงกาฬ

ภูทอก บึงกาฬ

ภูทอก บึงกาฬ

ภูทอก บึงกาฬ

สะพานไม้ที่สามารถเดินรอบภูทอกได้ครับ

ภูทอก บึงกาฬ

ภูทอก บึงกาฬ

ภูทอก บึงกาฬ

ภูทอก บึงกาฬ

ภูทอก บึงกาฬ

เอาวิวสวย ๆ บนภูทอก ฝากให้เพื่อนๆ ได้ดูกันดีกว่า เขาว่า สิบปากว่า ไม่เท่าตา เห็น ถึงจะเห็นรูปก็ได้แค่เห็นแต่คนไม่สามารถสัมผัสได้ เฉพาะนั้นแนะนำครับ หนาว นี้ เที่ยวภูทอกบึงกาฬ ก็น่าจะได้ความสนุกและบรรยากาศดี ๆ หน้าหนาว อากาศและสายหมอกที่ลอยมาสัมผัสคุณ น่าจะได้อรรถรสไปอีกแบบ หนาวเจอกันที่ภูทอกบึงกาฬนะครับ’>

คอลัมน์วันนี้ ล่าสุด

อัพเดทล่าสุด