บึงกาฬ ใหญ่ชนใหญ่รถบรรทุกเบรกกะทันหัน ลูกพ่วงหลุดชนรถอีกคัน/คนขับเจ็บสาหัสบาดเจ็บ3

สถานที่เกิดเหตุบนถนนทางหลวงหมายเลข 2026 บึงโขงหลง – เซกา ท้องที่บ้านโนนจำปาทอง ม.10 ต.โพธิ์หมากแข้ง อ.บึงโขงหลง จ.บึงกาฬ

บึงกาฬ-หวิดดับ! รถพ่วงเบรกกะทันหัน ผลลูกพ่วงสะบัด หลุดไปชนรถพ่วงอีกคันที่วิ่งสวนมา พบคนขับรถบรรทุกอีกคันเจ็บสาหัส แขน ขาข้างขวาหัก สะโพกหัก บาดเจ็บเล็กน้อย 2 คน ส่งตัวรักษาที่โรงพยาบาลบึงโขงหลง

วันนี้ (26มิ.ย.62) เมื่อเวลา 15.30 น เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ชีพ อบต.โพธิ์หมากแข้ง กู้ภัยสว่างศรีวิไลธรรมสถาน จุดบึงโขงหลง, กู้ภัยบึงโขงหลง และพลเมืองดี เข้าช่วยเหลือนายบุญแถน บุญชิ อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 66/2 หมู่ 10 ต.นิคมสงเคราะห์ อ.เมือง จ.อุดรธานี ออกจากหน้ารถพ่วง 22 ล้อ หมายเลขทะเบียน 70-1218 เลย ตัวลูกทะเบียน 70-1219 เลย อย่างทุลักทุเล

หลังเกิดอุบัติเหตุชนประสานงานกับรถพ่วง 22 ล้อเหมือนกัน บนถนนทางหลวงหมายเลข 2026 บึงโขงหลง – เซกา ท้องที่บ้านโนนจำปาทอง ม.10 ต.โพธิ์หมากแข้ง อ.บึงโขงหลง รถบรรทุกได้ขวางถนนไม่สามารถสัญจรผ่านได้ เบื้องต้นผู้บาดเจ็บสาหัส แขนและขาข้างขวาหัก สะโพกหัก ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลบึงโขงหลง และส่งไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลบึงกาฬ ส่วนลูกวัย 2 ขวบและเมียที่โดยสารมาด้วยบาดเจ็บเล็กน้อย

นายชิติพันธ์ มารมณ์พันธุ์ อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 98/14 หมู่ 3 ต.ท่าหินโงม อ.เมือง จ.ชัยภูมิ โซเฟอร์รถพ่วงคู่กรณี ให้การว่าขณะขับขี่มาถึงที่เกิดเหตุได้มีรถขายไอศกรีมขับรถออกมาจากซอยตัดหน้า ด้วยความตกใจจึงเบรกรถกะทันหัน ประกอบกับฝนตกถนนลื่น ทำให้ลูกพ่วงด้านหลังแฉลบออกมา จังหวะนั้นรถพ่วงคู่กรณีขับสวนทางมาพอดีทำให้พุ่งชนเข้าอย่างจัง

นางรัตนากร บุญชิ อายุ 39 ปี ภรรยานายบุญแถน ผู้บาดเจ็บ กล่าวว่าหลังจากไปรับทรายมาเต็มคันรถ กำลังจะมุ่งหน้ากลับบ้านที่จังหวัดอุดรธานี มาถึงที่เกิดเหตุสังเกตเห็นรถพ่วงที่สวนมา มีลักษณะคล้ายกับเบรกรถอย่างแรก กระทั่งลูกพ่วงที่อยู่ด้านหลังเหวี่ยงเข้ามากระแทกกับหน้ารถฝั่งที่สามีเป็นคนขับ จังหวะนั้นตนรีบคว้าตัวลูกไว้ ซึ่งเหตุการณ์เกิดขึ้นเร็วมาก จนลูกตกลงไปอยู่ใต้พักเท้าหน้ารถ พอตั้งสติได้ หันไปดูสามีก็พบว่าถูกอัดก๊อปปี้คาพวงมาลัย โชคดีมีพลเมืองเข้ามาช่วยตัวเองกับลูกออกมาก่อน

หลังเกิดเหตุร้อยตำรวจเอกสนิท คำชมภู รอง.สว.สอบสวน สภ.บึงโขงหลง ได้เข้าเก็บรวบรวมหลักฐาน สอบถามพยานที่เห็นเหตุการณ์ และให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยเร่งเก็บกู้ซากรถ และนำรถพ่วงออกจากจุดเกิดเหตุ ซึ่งใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมง จึงสามารถเคลียร์เส้นทาง ให้ประชาชนใช้ถนนสัญจรได้ตามปกติ ส่วนคดีจะได้เรียกทั้งสองฝ่ายมาสอบสวนอีกครั้ง

ขอขอบคุณข่าว   ภาพเพิ่มเติมหน่วยกู้ภัยสว่างศรีวิไลฯ จังหวัดบึงกาฬ’>