ที่มา | หน้าประชาชื่น มติชนรายวัน |
---|---|
ผู้เขียน | ภคพร บุญมี และชนากานต์ ปานอ่ำ |
เผยแพร่ |
นอกเหนือจากการนำนวัตกรรมและงานวิจัยด้านการเพิ่มมูลค่ายางพารามาจัดแสดงอย่างแพร่หลาย มากมายด้วยกิจกรรมส่งเสริมความรู้ การฝึกทักษะ การจัดแข่งขันลับมีดและการแข่งขันกรีดยางชิงแชมป์ประเทศไทยแล้ว ในงาน วันยางพาราบึงกาฬ 2563 ที่เพิ่งจบลงไปยังมีทั้งความบันเทิง ความสนุกสนานจากเวทีคอนเสิร์ต เวทีแข่งขันร้องเพลง คาราบาวบึงกาฬลั่นทุ่ง 2020 และการประกวดวงดนตรีลูกทุ่ง ไทยแลนด์ลูกทุ่งคอนเทสต์ 2020 ซึ่งจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
กิจกรรมทั้งหมดล้วนต่อยอดให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ สร้างประโยชน์แก่ชาวบึงกาฬ จังหวัดใกล้เคียง และประเทศชาติต่อไป
หากกล่าวเฉพาะการแข่งขันร้องเพลงและวงดนตรีลูกทุ่งแล้ว จะพบว่าทั้ง 2 เวทีมีความพิเศษต่างกัน แต่เดิมการแข่งขัน “ไทยแลนด์ลูกทุ่งคอนเทสต์” จะมีผู้เข้าประกวดจากทั่วประเทศร่วมประชันฝีมือหาสุดยอดวงดนตรี ทว่าในงานวันยางพาราบึงกาฬ 2563 นี้ สปอนเซอร์ใหญ่ใจดีอย่าง บริษัท คาราบาวกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ได้กำหนดคุณสมบัติผู้เข้าแข่งขันใหม่ โดยให้อยู่ใน “ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ” เท่านั้น
ที่สำคัญยังสร้างเวทีแข่งขันใหม่ในชื่อ “คาราบาวบึงกาฬลั่นทุ่ง 2020” เฟ้นหานักร้องลูกทุ่งหน้าใหม่ พร้อมเปิดโอกาสให้พี่น้องจากประเทศเพื่อนบ้านร่วมสมัครเข้าแข่งขันชิงเงินรางวัลรวมกว่า 60,000 บาท
ทั้งสองเวทีได้รับเกียรติจากคณะกรรมการทรงคุณวุฒิร่วมทำการตัดสินรอบชิงชนะเลิศ โดย ครูสลา คุณวุฒิ, ครูเทียม-ชุติเดช ทองอยู่ และครูเรืองยศ พิมพ์ทอง ผลการตัดสินเป็นไปอย่างเอกฉันท์ ซึ่งกรรมการทั้ง 3 ท่านเอ่ยไปในทางเดียวกันว่า ผู้แพ้ชนะไม่มีพลิกโผ ไม่เหนือความคาดหมาย แต่ละราย แต่ละทีมมีจุดเด่นและรอยแผลต่างกัน
ที่มากกว่านั้นคือ คำชื่นชมถึงผู้ฝึกสอนที่ดึงความสามารถของเด็กแต่ละคนขึ้นมาได้
ระยะทางไกลไม่ใช่ปัญหา เพราะวงดนตรีจาก โรงเรียนประโคนชัยพิทยาคม จ.บุรีรัมย์ ขนอุปกรณ์ประกอบการแสดงมาเพียบ แถมนักร้องยังทำผลงานได้ดี ดนตรีก็ปัง การแสดงก็เป๊ะ จนกรรมการทั้ง 3 ท่านโหวตให้ชนะเลิศเวที “ไทยแลนด์ลูกทุ่งคอนเทสต์ 2020” รับเงินรางวัลจำนวน 150,000 บาท พร้อมถ้วยพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และเกียรติบัตรไปครองได้สำเร็จ
ส่วนรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 เป็นของ โรงเรียนปักธงชัยประชานิรมิต จ.นครราชสีมา รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 โรงเรียนเมืองพล จ.ขอนแก่น และรางวัลชมเชย โรงเรียนบึงกาฬ จ.บึงกาฬ
เช่นเดียวกับ ดอกสร้อย แก้วมณี สาว สปป.ลาว ที่ทราบข่าวการประกวด “คาราบาวบึงกาฬลั่นทุ่ง 2020” จากพี่สาวที่อยู่ออสเตรเลีย พร้อมเชิญชวนให้มาแข่งขัน กระทั่งเธอโชว์ลูกคอได้ประทับใจกรรมการ คว้าแชมป์จากเวทีดังกล่าว รับเงินรางวัล 30,000 บาท ถ้วยเกียรติยศ และเกียรติบัตร รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 คือ น.ส.วิชุดา นระทัต รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 คือ นายวัชระ โภสาราด รางวัลชมเชย 2 รางวัล ได้แก่ นายนิรุธษกร ประทุม และ นายธนาวุฒิ ศรีเทพ ส่วนผู้เข้าแข่งขันอีก 5 คนได้รับรางวัลยอดนักสู้จากคาราบาวแดง
ย้อนอ่าน : สาวลาวคว้าชัย ‘คาราบาวบึงกาฬลั่นทุ่ง’ ประโคนชัยพิทยาคม แชมป์ ‘ไทยแลนด์ลูกทุ่งคอนเทสต์’ (ภาพชุด)
ดอกสร้อยกล่าวว่า ก่อนอื่นต้องขอบคุณทีมงานที่คอยช่วยเหลือให้ได้มาแสดงความสามารถในครั้งนี้ ยินดีและดีใจมาก ไม่คิดว่าตัวเองจะมาได้ไกลขนาดนี้ สำหรับนักร้องทั่วไปจาก สปป.ลาว อย่างตน ชัยชนะครั้งนี้ถือเป็นประสบการณ์ที่ยิ่งใหญ่มาก หลังจากนี้ เชื่อว่าพ่อแม่และพี่น้อง สปป.ลาว ต้องดีใจและยินดีด้วยอย่างแน่นอน ขอขอบคุณคาราบาวที่มอบโอกาสให้กับทุกคน รวมถึงดิฉันที่ได้มาแสดงความสามารถ ได้รับมิตรภาพดีๆ จากเพื่อนๆ ที่มาร่วมเข้าประกวดในเวทีนี้
ปวริศ สัทธะประโคน ตัวแทนจาก ร.ร.ประโคนชัยพิทยาคมเผยว่า ตนและสมาชิกวงเฟื่องฟ้าขาวทุกคนดีใจและตื่นเต้นมากที่รู้ว่าได้รับรางวัลชนะเลิศ ที่ผ่านมาใช้เวลาฝึกฝน ซุ่มซ้อมกันเกือบ 4 เดือน จนทำให้มีวันนี้ ทั้งหมดได้รับการฝึกซ้อมจากอาจารย์ที่อยู่เบื้องหลัง และช่วยกันรังสรรค์จนออกมาเป็นการแสดงที่แข็งแกร่ง กระทั่งชนะใจกรรมการในที่สุด
“สำหรับการประกวดในปีหน้า พวกเราจะกลับมาใหม่อย่างแน่นอน และจะรักษาเอกลักษณ์ของ ร.ร.ประโคนชัยพิทยาคมไว้ ทั้งนี้ ขอฝากพี่น้อง จ.บึงกาฬ และบุรีรัมย์ช่วยเป็นแรงเชียร์แรงใจให้พวกเราต่อไปในทุกเวที ขอขอบคุณคาราบาวที่จัดงานดีๆ แบบนี้ให้นักเรียนอย่างพวกเราได้มาแสดงความสามารถให้ชาวบึงกาฬและประชาชนทั่วประเทศได้เห็น”
ขณะที่ผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของ ร.ร.ประโคนชัยพิทยาคม ปรมินตรา บุญชม อาจารย์ผู้ฝึกสอน มองว่า จุดเด่นของวงดนตรี “เฟื่องฟ้าขาว” คือเอกลักษณ์เด่นชัดเกี่ยวกับจังหวัดบุรีรัมย์ โดยวงดนตรีนี้ผ่านเวทีประกวดมากว่า 10 ปี มีทีมงานภายในโรงเรียนช่วยกันรังสรรค์โชว์ในการประกวด จนทำให้ได้รางวัลชนะเลิศในครั้งนี้ หลังจากนี้ยืนยันว่าจะสร้างสรรค์การแสดงใหม่ๆ ที่น่าสนใจมาให้ทุกคนได้ชมอย่างแน่นอน
“ขอบคุณผู้ที่มีส่วนช่วยเหลือใน จ.บุรีรัมย์ ที่ให้การช่วยเหลือเราเป็นอย่างดีมาโดยตลอด ครั้งนี้เราได้นำความสำเร็จกลับไปให้จังหวัดได้แล้ว และพร้อมที่จะก้าวต่อไปในการแข่งขัน ปีต่อไปอย่างเต็มร้อย นอกจากนี้ ต้องขอขอบคุณผู้ใหญ่ใจดีที่เปิดโอกาสให้เด็กๆ ที่รักในเพลงลูกทุ่งได้มีเวทีแสดงออก ขอให้มีการจัดงานดีๆ แบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ”
“การตัดสินรอบชิงชนะเลิศในครั้งนี้มีความยากเรื่องการอธิบาย ผู้เข้าแข่งขันแต่ละทีมตั้งความหวังไว้สูง แต่ความเข้าใจในการแสดงออกยังทำไม่เป็น คนทั่วไปอาจตัดสินกันที่ใครร้องเก่งกว่า คนนั้นจะเป็นผู้ชนะ ซึ่งในมุมของการแข่งขันอาจต้องมองให้ละเอียดกว่านั้น…”
ครูสลา คุณวุฒิ ครูเพลงลูกทุ่งและโปรดิวเซอร์ชื่อดัง เอ่ยถึงความยากของการตัดสิน 2 เวทีลูกทุ่ง พร้อมอธิบายว่า ผู้ชนะเลิศจากเวทีคาราบาวบึงกาฬลั่นทุ่ง “ดอกสร้อย แก้วมณี” มีการร้องแบบพอดีพลังดี จังหวะดี แม้ว่าเสียงร้องในบางจังหวะอาจมีรอยแผล แต่โดยภาพรวมแล้วออกมาดี จึงได้ตำแหน่งในครั้งนี้ไป
สำหรับ “ไทยแลนด์ลูกทุ่งคอนเทสต์” ในมุมมองของครูสลาแล้วตัดสินค่อนข้างยากกว่าการแข่งขันแบบนักร้องเดี่ยว ทว่า หากมองจากภาพรวมด้านการแสดง ผลแพ้ชนะครั้งนี้ถือว่าไม่พลิกโผ เพราะเมื่อมองย้อนกลับไป ร.ร.ประโคนชัยพิทยาคม แชมป์เปียนปีนี้มีการพัฒนาอย่างก้าวกระโดด จนอยากขอพบครูผู้ฝึกสอน อยากชื่นชมในความคิดสร้างสรรค์ของโชว์ในครั้งนี้
“ครูมีเกณฑ์ตัดสินมีทั้งหมด 10 ข้อ อาทิ เสียงร้อง ความสามารถ อารมณ์ บุคลิก โดยเรื่องเสียงนั้นจะแยกเป็นคะแนนแก้วเสียง พลังเสียง การใช้เสียงที่เป็นธรรมชาติ และการเลือกใช้เพลงในการแข่งขัน ซึ่งในมุมของประชาชนอาจมองว่าคนที่ร้องเพลงยากควรเป็นผู้ชนะ แต่ในการแข่งขันต้องมองถึงความเหมาะสมและการร้องแบบไปแตะหัวใจคนฟังเป็นอันดับแรก ส่วนเรื่องการแสดง ปกติโรงเรียนมัธยมจะจ้างคนนอกมาเทรนเด็ก แต่ทีม ร.ร.ประโคนชัยพิทยาคม ใช้บุคลากรภายในโรงเรียน ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีมาก อยากให้ทุกโรงเรียนหาบุคลากรที่มีคุณภาพ เพื่อเป็นการปลูกฝังเด็กให้มีมาตรฐานมากยิ่งขึ้นอีกด้วย
“ต้องขอบคุณคาราบาว และ จ.บึงกาฬ ที่ยืนหยัดในการพัฒนาจังหวัดและยืนยันว่าบึงกาฬคือเมืองยางพาราที่พร้อมจะพัฒนาในทุกมิติ ขอบคุณที่เปิดโอกาสให้เด็กได้มาแสดงความสามารถและความคิดสร้างสรรค์ในเวทีใหญ่ๆ เช่นนี้”
ในส่วนพาร์ตการแสดง ต้องหันมาฟัง ครูเทียม-ชุติเดช ทองอยู่ ที่ยอมรับว่าในเวทีไทยแลนด์ลูกทุ่งคอนเทสต์นั้น แต่ละทีมมีความสามารถไล่เลี่ยกัน ซึ่งในการแข่งขันแล้ว ไม่ว่าเพลงช้าหรือเพลงเร็วก็ไม่ใช่ปัญหา ทว่า บางโรงเรียนมีปัญหาเรื่องเพลงบังคับด้วยไม่ถนัดในการร้อง ฉะนั้น ใครที่สามารถตอบโจทย์นี้ได้จึงจะทำคะแนนได้ดี นอกจากนี้ การแข่งขันมี 2 ด้านเสมอ การเสียน้ำตาจึงเป็นเรื่องธรรมดาของการประกวด
“การแสดงของ ร.ร.ประโคนชัยพิทยาคม ถือว่าตอบโจทย์ แต่ละการแสดงเชื่อมโยงกันทั้ง 3 เพลง คือเพลงเทพพระบิดา เพลงอาลัยรัก และเพลงนักรบนิรนาม ที่สำคัญคือนักร้อง-ดนตรี-โชว์ ‘ไม่บอด’ จึงทำให้โดยภาพรวมออกมาดีกว่าทีมอื่นๆ การเข้ามาตรงนี้ครูมองว่าเด็กๆ ตั้งใจ พร้อมเก็บคำคอมเมนต์ของครูไว้เป็นแรงบันดาลใจ ช่วยสานต่อผลงานในอนาคตได้
“ต้องขอบคุณผู้สนับสนุนอย่างคาราบาวที่ตอบโจทย์เรื่องสังคม วัฒนธรรม และการให้โอกาสเด็ก ซึ่งเป็นเรื่องที่ถูกต้องมาก รวมถึงการที่ผู้ใหญ่มอบโอกาสให้เด็กๆ และผู้ที่มีใจรักในการร้องเพลงลูกทุ่งได้มาแสดงความสามารถ”
ก่อนที่ ครูเรืองยศ พิมพ์ทอง โปรดิวเซอร์ลูกทุ่งชั้นนำของเมืองไทย จะให้ความเห็นปิดท้ายว่า การคัดเลือกนักร้องให้ผ่านเข้ารอบมาในเวทีคาราบาวบึงกาฬลั่นทุ่งล้วนคุณภาพทั้งสิ้น ทั้ง 10 คนสามารถเป็นนักร้องได้ทันที หลายคนที่ไม่ชนะไม่ใช่ว่าไม่เก่ง เพียงแต่มีข้อผิดพลาดเล็กน้อยเท่านั้น สำหรับเวทีไทยแลนด์ลูกทุ่งคอนเทสต์ ทั้ง 4 วงที่ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศมีสิ่งที่ดีแตกต่างกัน อย่างวง ร.ร.ประโคนชัยพิทยาคม ปีนี้เก่งมาก สงสัยว่าใครทำให้เขาเก่งขนาดนี้ ต้องขอบคุณคนที่อยู่เบื้องหลังที่สามารถผลักดันเด็กๆ เหล่านี้ให้มีความสามารถ
“ขณะที่ ร.ร.ปักธงชัยประชานิรมิต มีสไตล์แบบนี้มานานแล้ว คือเพลงช้าเป็นสาระ เพลงเร็วเป็นคอเมดี้สนุกสนาน เฮฮา คุณภาพโชว์คงที่ และขอชื่นชมครู ร.ร.เมืองพล ที่เขียนโน้ตมาดี ให้เสียงประสานที่ดี เด็กเป่าถึงคุณภาพ สำหรับครูแล้วโรงเรียนนี้ไม่แพ้ใครเลย ส่วน ร.ร.บึงกาฬ เท่าที่เห็นมาเขาพัฒนาเรื่อยๆ มาถึงวันนี้ได้ถือว่าเก่งมากๆ ทั้ง 4 โรงเรียนที่มาอยู่ตรงนี้ถือว่าเก่งหมด
“ต้องขอบคุณคาราบาว จ.บึงกาฬ องค์การบริหารส่วนจังหวัดบึงกาฬ ที่ให้การสนับสนุน ตอนนี้เวทีใหญ่ๆ แบบนี้ในประเทศไทยไม่มีอีกแล้ว ขอบคุณที่คาราบาวเห็นคุณค่าของเด็กๆ หากผู้ใหญ่ไม่พัฒนา หรือคนที่มีความพร้อมแล้วไม่ส่งเสริมเด็กๆ เหล่านี้ เขาก็ไม่มีโอกาสได้ไปแสดงที่ไหน ไม่มีโอกาสให้พัฒนา”
เป็นอันจบการประกวด “ไทยแลนด์ลูกทุ่งคอนเทสต์ 2020” และ “คาราบาวบึงกาฬลั่นทุ่ง 2020” ที่ปีนี้ยังลุ้นกันตัวโก่ง ส่วนโอกาสหน้าแต่ละคน แต่ละทีมจะพัฒนาความสามารถได้ไกลขนาดไหน ต้องมารอให้กำลังใจกันในงานวันยางพาราบึงกาฬ 2564
‘>