พบค่าย ผกค.เก่าบนภูสิงห์ เร่งพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยว

พบค่าย ผกค.หรือผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ ในภาคอีสานตอนบนที่ถือว่าสำคัญแห่งหนึ่งตั้งอยู่บนภูสิงห์ เขต อ.เมืองบึงกาฬ และอ.ศรีวิไล จ.บึงกาฬ มีถ้ำขนาดใหญ่จุคนได้ประมาณ 300 คน อดีตเคยเป็นสถานพยาบาล และห้องประชุม เคยเป็นสมรภูมิรบ มีการสูญเสียกำลังพลทั้ง ผกค.และฝ่ายรัฐบาล มีหน้าผา ลานหินปุ๋มและหินตู้รถไฟสวยงาม อยู่ห่างตัวจังหวัดแค่ 25 กิโลเมตร กรมป่าไม้เร่งพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยว

เมื่อเวลา 08.00 น.วันที่ 23 ธ.ค.57 ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดบึงกาฬว่า ภายหลังจากนายทรัพย์สิน จงดี หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ นค.4 (เซกา) ที่รับผิดชอบดูแลป่าสงวนแห่งชาติป่าดงดิบกะลา ป่าภูสิงห์และป่าดงสีชมพู มีพื้นที่ประมาณ 12,000 ไร่  ตั้งอยู่ในเขต ต.โคกก่อง ต.ชัยพร อ.เมืองบึงกาฬ และเขต ต.นาสิงห์ ต.นาสะแบง และ ต.นาแสง อ.ศรีวิไล จ.บึงกาฬ ที่ได้เชิญสื่อมวลชนขึ้นไปสำรวจรอบๆ บนภูสิงห์ซึ่งมีความสูงห่างจากน้ำทะเล 420 เมตร เป็นภูเขาหินทราย ในช่วงเช้าตรู่ประมาณ 6 โมงเช้าสามารถมองเห็นพระอาทิตย์โผล่ขึ้นขอบฟ้าสีเหลืองอร่ามงามตาและในช่วงเย็นประมาณ 5-6 โมงเย็นมองเห็นพระอาทิตย์ตกดินลับขอบฟ้าเป็นสีแดงอย่างสวยงามเช่นกัน โดยได้เชิญ นายประสิทธิ์ หอมสมบัติ อายุ 68 ปี หรือสหายเทียนชัยชื่อจัดตั้งในป่ามาร่วมเดินทางให้ข้อมูลด้วย ตรงหน้าผาด้านทิศตะวันออกพบหลุมบังเกอร์อยู่หลายหลุมบนทางเดินก่อนลงถ้ำขนาดใหญ่จุคนได้ประมาณ 300 คน ใช้เป็นห้องประชุม หลบลูกกระสุนปืนใหญ่ และเป็นห้องพยาบาล มีเจ้าหน้าที่พยาบาลประจำอยู่ 30 คน ห่างจากนี้ไปอีกประมาณ 1 กิโลเมตร พบลานหินปุ่มที่มีลักษณะแตกต่างกัน บางแห่งก็เป็นหินปุ่มลายเหมือนลายแทง บางแห่งก็เป็นลายเหมือนค่ายกลมีคดเคี้ยว บางแห่งก็เป็นลายหินปุ่มเหมือนขนมดอกจอก และไปอีกประมาณ 2 กิโลเมตรจะพบกับขัวหิน หรือสะพานหิน ยาวประมาณ 20 เมตรกว้างประมาณ 1 เมตร ลึกลงก้นเหวประมาณ 15 เมตร กม.ใกล้กันจะพบภูหินรถไฟ ที่มีตู้ขบวนประมาณ 4 ตู้พ่วงติดกัน และส่วนหัวก็จะดูคล้ายหัวรถจักร มีก้อนหินขนาดเล็กวางอยู่บนหัวรถจักรอีกทีหนึ่ง ส่วนรถไฟหินที่ดูเว้าแหว่งมองด้านข้างคล้ายตู้รถไฟ นายประสิทธ์หรือสหายเทียนชัยเล่าว่าเป็นเพราะถูกกระสุนปืนใหญ่ของฝ่ายทหารยิงถล่มเมื่อปี พ.ศ.2521-2522 มีการสูญเสียกำลังพลทั้ง 2 ฝ่าย และภรรยารักของตนก็โดนกระสุนปืนใหญ่เสียชีวิตบนสนามรบนี้ด้วย บนภูสิงห์มีถ้ำใหญ่ใช้เป็นที่หลบซ่อนอยู่ 3 แห่งคือ ถ้ำใหญ่ ถ้ำฤๅษี และถ้ำประตูโขง

นายทรัพย์สิน จงดี กล่าวว่าอธิบดีกรมป่าไม้ โดยนายธีรภัตร ประยูรสิทธิ ได้จัดตั้งศูนย์จัดการกลุ่มป่าสงวนแห่งชาติ ทั่วประเทศ จึงได้ทำการสำรวจศักยภาพพื้นทีป่าสงวนแห่งชาติ เพื่อกำหนดทิศทางการบริหารจัดการ สำหรับทางขึ้นภูสิงห์รถยนต์ขึ้นได้มีทางเดียวคือต้องขึ้นมาทางวัดจิตตภาวดีคีรีบรรพต บ้านไร่สุขสันต์ ต.โคกก่อง โดยวิ่งผ่านวัดขึ้นมาถึงแค่หินรถไฟเป็นระยะทางประมาณ 6 กิโลเมตร แต่สันภูสิงห์ก็จะทอดยาวไปอีกประมาณ 9 กิโลเมตรไปทางเขต อ.ศรีวิไล ตลอดเส้นทาง 6 กิโลเมตร ก็จะมีการเทคอนกรีตสลับลานหินและดิน ตามทางลานชัน ส่วนการเดินเท้าขึ้นมาบนภูสิงห์ก็จะขึ้นได้หลายทาง และเมื่อเดินทางกลับจากดูหินรถไฟ อีกประมาณ 2 กิโลเมตรก็จะเป็นทางแยกไปด้านซ้ายดูหิน” ส้างร้อยบ่อ” ซึ่งเป็นหลุมเป็นบ่อจำนวนมากกว้างประมาณ 50-80 เซนติเมตร ลึกประมาณ 30 เซนติเมตรอยู่บนริมหน้าผาสูงชัน มีราวเหล็กกั้นกันตกจุดนี้ก็จะมองเห็นทัศนียภาพกว้างไกลไปถึงศูนย์ราชการแห่งใหม่ของจังหวัดบึงกาฬ โดยกรมป่าไม้จะได้เร่งรัดพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวอีกแห่ง ซึ่งได้รับการสนับสนุนงบประมาณเบื้องต้นจากทางผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ มาปรับปรุงเส้นทางและราวเหล็กกันตก เพื่อสร้างความปลอดภัยและมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวที่จะมาสัมผัสกับกลิ่นไอของฐาน ผกค.เก่าแห่งนี้ ผู้สนใจไปเยี่ยมชมติดต่อได้กับนายทรัพย์สิน โทร 08-85638852

‘>