ชาวบึงกาฬรวมตัวต้านโรงไฟฟ้าชีวมวล หวั่นสร้างมลพิษ ขณะฝ่ายปกครอง ยันไม่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมแน่ พร้อมชี้แจงทำความเข้าใจกับกลุ่มต่อต้าน“

ชาวบึงกาฬรวมตัวต้านโรงไฟฟ้าชีวมวล หวั่นสร้างมลพิษ ขณะฝ่ายปกครอง ยันไม่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมแน่ พร้อมชี้แจงทำความเข้าใจกับกลุ่มต่อต้าน

ชาวบึงกาฬรวมต้านโรงไฟฟ้าชีวมวล | เดลินิวส์
„ชาวบึงกาฬรวมต้านโรงไฟฟ้าชีวมวล ชาวบึงกาฬรวมตัวต้านโรงไฟฟ้าชีวมวล หวั่นสร้างมลพิษ ขณะฝ่ายปกครอง ยันไม่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมแน่ พร้อมชี้แจงทำความเข้าใจกับกลุ่มต่อต้าน วันพุธที่ 27 พฤษภาคม 2558 เวลา 18:56 น. เมื่อวันที่ 27 พ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีรัฐบาลมีนโยบายให้ทุกจังหวัด ดำเนินการก่อสร้างโรงไฟฟ้าชีวมวลเพื่อแปรสภาพขยะมาเป็นไฟฟ้า โดยบริษัท แห่งหนึ่งเป็นผู้รับสัมปทานในการก่อสร้างโรงไฟฟ้าใน จ.บึงกาฬ โดยใช้งบประมาณ ราว 985 ล้านบาท และมีการจัดทำประชาพิจารณ์ในระดับตำบลเรียบร้อยแล้ว และจะดำเนินการก่อสร้างในเขตพื้นที่บ้านนาสุขสันต์ ต.วิศิษฐ์ ส่งผลให้กลุ่มชาวบ้านในพื้นที่ และบริเวณใกล้เคียงที่ไม่เห็นด้วยออกมารวมตัวคัดค้านการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานขยะชุมชน เนื่องจากหวั่นเกรงว่าจะสร้างมลพิษเหมือนอย่างที่เกิดขึ้นในชุมชนอื่น ๆ ซึ่งสุดท้ายประชาชนตกเป็นเหยื่อได้รับความเดือดร้อนจากควันพิษ กลิ่นเหม็นจากการเผาไหม้ไม่สมบูรณ์ โรคมะเร็ง ฝนกรดพื้นที่การเกษตรอาจได้รับความเสียหาย เพราะสถานที่ก่อสร้างโรงงานห่างจากตัวจังหวัดแค่ 8 กิโลเมตร นอกจากนี้ยังได้ยืนหนังต่อประธานสภาเทศบาลตำบลวิศิษฐ์ให้พิจารณาทบทวนให้ยกเลิกการก่อสร้างโรงไฟฟ้าดังกล่าว หลังผ่านมติในสภาของเทศบาลและทำ Mou กับบริษัทเอกชนแล้ว

ด้านนายเผด็จ ดงยะโสภา นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลวิศิษฐ์ ชี้แจงว่า วันนี้เป็นการประชุมสรุปแผน 3 ปีของเทศบาลตำบลวิศิษฐ์ส่วนเรื่องยื่นหนังสือคัดค้านการสร้างโรงไฟฟ้าที่ใช้ขยะเป็นเชื้อเพลิงแบบไม่ต้องคัดแยกเผาได้ทั้งขยะแห้งและเปียก เหล็กและไม้ ใช้ความร้อนสูง 800-1500 องศา เผาแบบเป็นจุลไม่มีควัน ไม่มีกลิ่นไม่มีเสียงดัง ไร้มลพิษ แต่มีบางกลุ่มยังไม่เข้าใจ แต่เราก็ยินดีชี้แจงส่วนผลประโยชน์ที่เทศบาลจะได้รับ 30 ล้านต่อปี และคนในชุมชนได้ 7 ปี 14 ล้านมาเป็นทุนในชุมชนได้ค่าบริการขยะตันละ 30 บาท รวมเดือนละ 180,000 บาท งบประมาณก่อสร้างราว 985 ล้านบาท มีบริษัทเอกชนดำเนินการเอง มีการทำประชาคมในตำบล และผ่านสภาของเทศบาลก่อนทำ Mou กับบริษัท และนำเสนอที่ประชุมของผู้บริหาร อปท อบต โดยผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธานวันที่ 8 พ.ค.ที่ผ่านมา จากนี้ไปจะได้ทำประชาคมในระดับจังหวัดต่อไปพร้อมชี้แจงกับหน่วยงานต่าง ๆ ให้เข้าใจถึงผลดีผลเสียที่จะได้รับต่อไป.“

‘>