เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 9 ก.ค.ที่ห้องคอนเวนชั่นฮอลล์โรงแรมเดอะวันบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ นายสนิท ขาวสะอาด ผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ เป็นประธานเปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นประชาชน ครั้งที่ 1 ปฐมนิเทศโครงการศึกษาความเป็นไปได้การก่อสร้างท่าอากาศยานบึงกาฬ ของกรมท่าอากาศยาน โดยมีนายอาทิตย์ วินิจสร ผู้อำนวยการกองก่อสร้างและบำรุงรักษากรมท่าอากาศยาน เป็นผู้กล่าวรายงาน ถึงวัตถุประสงค์ในการจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นในครั้งนี้ ซึ่งมีผู้เข้าร่วมประชุมประมาณ 100 คน โดยการจัดให้มีที่นั่งเว้นระยะห่างประมาณ 2 เมตรตามข้อกำหนดของกระทรวงสาธารณสุข โดยมีนางฉัตรโสภา ตัวแทนจากกลุ่มบริษัทที่ปรึกษาโครงการ และนายกล้า มณีโชติ ผู้ชำนาญการสิ่งแวดล้อม เข้าร่วมเป็นวิทยากรตอบข้อซักถาม โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินความเป็นไปได้ของโครงการก่อสร้างท่าอากาศยานบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ เพื่อศึกษาปัจจัยด้านวิศวกรรมและสิ่งแวดล้อมที่มีผลต่อการพัฒนาท่าอากาศยานบึงกาฬ เพื่อศึกษาและออกแบบเบื้องต้นโครงการก่อสร้างท่าอากาศยานบึงกาฬและเพื่อศึกษาปัจจัยด้านเศรษฐศาสตร์ที่มีผลต่อการพัฒนาท่าอากาศยานบึงกาฬ
นายอาทิตย์ วินิจสร กล่าวว่ากรมท่าอากาศยานเป็นหน่วยงานที่มีภารกิจเกี่ยวกับการส่งเสริมพัฒนาโครงข่ายและส่งเสริมกิจการท่าอากาศยาน โดยมีอำนาจหน้าที่ในการวิเคราะห์ความจำเป็นและความเป็นไปได้ในการมีท่าอากาศยานแห่งใหม่ เพื่อประโยชน์ในการพัฒนาเศรษฐกิจและอำนวยความสะดวกแก่ประชาชน เพื่อเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาและจัดให้มีท่าอากาศยานตามผลการศึกษาวิเคราะห์และผลการพิจารณาของคณะรัฐมนตรี กรมท่าอากาศยานจึงจัดให้มีโครงการศึกษาความเป็นไปได้ในการก่อสร้างท่าอากาศยานบึงกาฬ เพื่อใช้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจการพัฒนาท่าอากาศยานบึงกาฬ โดยกำหนดข้อมูลความเหมาะสมที่สำคัญได้แก่ความเหมาะสมด้านเศรษฐกิจ ความเหมาะสมด้านวิศวกรรมและผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม โครงการศึกษาความเป็นไปได้ในการก่อสร้างท่าอากาศยานบึงกาฬ โดยได้กำหนดพื้นที่สำรวจสนามบินไว้ จำนวน 5 จุด คือ 1.ในพื้นที่ตำบลหอคำ อ.บึงกาฬ 2.ในพื้นที่ตำบลโนนสว่าง อ.เมืองบึงกาฬ 3.ในพื้นที่ตำบลศรีชมภู อ.โซ่พิสัย 4.ในพื้นที่ตำบลถ้ำเจริญ อ.โซ่พิสัย และ 5.ในพื้นที่ตำบลหนองหัวช้าง ตำบลศรีสำราญ อ.พรเจริญ ซึ่งทั้งหมดยังไม่สามารถระบุได้ว่าผลของการสำรวจพื้นที่ไหนที่เหมาะสมที่จะสร้างสนามบินบึงกาฬ ต้องรอผลสำรวจความเป็นไปได้ทั้ง 5 จุดเสียก่อน
นายสนิท ขาวสอาด ผวจ.บึงกาฬ กล่าวว่าเมื่อต้นเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา นายทรงศักดิ์ ทองศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้เป็นประธานการสัมมนาเชิงปฏิบัติการการขับเคลื่อนแผนพัฒนาจังหวัดบึงกาฬ ปี พ.ศ.2561-พ.ศ. 2565 หัวข้อ 9 ปี ก้าวหน้า มุ่งสู่ศูนย์กลางเศรษฐกิจชายแดนแห่งลุ่มน้ำโขง โดยได้มอบนโยบายการพัฒนาตามยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัดบึงกาฬ ให้กับทุกหน่วยงานในพื้นที่นำไปปฏิบัติ เช่น โครงการพัฒนาตามผังเมืองรวมจังหวัดบึงกาฬ (landmark) การก่อสร้างสะพานมิตรภาพแห่งที่ 5 บึงกาฬ-บอลิคำไซ การก่อสร้างท่าอากาศยานบึงกาฬ การก่อสร้างประตูระบายน้ำห้วยกำแพง เพื่อป้องกันน้ำท่วมในเขตเมืองบึงกาฬ เป็นต้น
จังหวัดบึงกาฬก้าวเข้าสู่ปีที่ 9 ปี มีแนวนโยบายของผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ 3 สร้าง คือ 1.สร้างเมือง 2.สร้างคน 3.สร้างรายได้ (ด้วยหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง) โครงการนี้ก็เป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์ในการสร้างเมืองเพื่อการพัฒนาระบบคมนาคมขนส่ง การท่องเที่ยว และการศึกษา นำความเจริญมาสู่บึงกาฬ หลังจากนี้ไปคนบึงกาฬต้องมาช่วยกัน สร้างการรับรู้และความเข้าใจให้กับพี่น้องประชาชน ต่อไปจังหวัดจะมีเส้นทางคมนาคมการขนส่ง จากไทย ไปลาว ไปเวียดนาม การไปมาหาสู่ ประกอบธุรกิจระหว่างกันมากมาย ท่าน ดร.ทรงศักดิ์ ทองศรี ก็พร้อมที่จะช่วยสร้างบ้านแปลงเมืองให้มีความเจริญก้าวหน้า โครงการนี้ก็ได้รับการผลักดันจากท่านเช่นกัน จนทำให้เกิดการศึกษาสนามบินบึงกาฬในวันนี้
ผวจ.บึงกาฬ กล่าวทิ้งท้ายว่าบึงกาฬเป็นจังหวัด ที่ 77 ของประเทศไทยมีอาณาเขตติดต่อกับ สปป.ลาว โดยมีชายแดนเป็นแม่น้ำโขงกั้นกลางยาวประมาณ 120 กิโลเมตร อยู่ตรงข้ามกับแขวงบอลิคำไซ สปป.ลาว เราเป็นจังหวัดใหม่ที่มีศักยภาพด้านการท่องเที่ยว เนื่องจากมีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ทางธรรมะ ประวัติศาสตร์ โบราณคดีและวิถีชีวิตของประชาชนที่น่าสนใจเป็นจำนวนมาก จึงทำให้ยอดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเพิ่มมากขึ้นทุกปี จากสถิติการท่องเที่ยวในช่วงปี 2555-2561 มีจำนวนผู้เข้ามาเยี่ยมเยียนเพิ่มขึ้นมากอย่างต่อเนื่อง จากนักท่องเที่ยว 3 แสนกว่าคนเพิ่มขึ้นเป็น 6 แสนกว่าคนในปี 2561 และมีท่าอากาศยานที่ตั้งอยู่โดยรอบๆ จังหวัดบึงกาฬมีระยะทางห่างประมาณ 180 ถึง 200 กิโลเมตรต้องใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง ในการเดินทางแต่ละครั้ง
เช่น ท่าอากาศยานอุดรธานี 200 กิโลเมตร ท่าอากาศยานนครพนม 190 กิโลเมตรและท่าอากาศยานสกลนคร 180 กิโลเมตร ดังนั้น ในวันหยุดเสาร์-อาทิตย์จึงมีนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวชมธรรมชาติ เช่น เที่ยวชมถ้ำพญานาคบนอุทยานภูลังกา อ.บึงโขงหลง ที่มีน้ำตกกินรีและน้ำตกตาดวิมานทิพย์ ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ที่เพิ่งค้นพบมาไม่กี่ปี ที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูวัวซึ่งมีช้างป่า ประมาณ 50 ตัวและมีน้ำตกรายรอบจำนวนมาก
อาทิเช่น น้ำตกถ้ำพระ น้ำตกเจ็ดสี น้ำตกตาดชะแนน น้ำตกตาดนกเขียน น้ำตกถ้ำฝุ่น นอกจากนี้ก็ยังมีแหล่งพักผ่อนหย่อนใจ เช่น หาดคำสมบูรณ์ ซึ่งเป็นทะเลน้ำจืดมีนักท่องเที่ยวพาลูกหลานมาเที่ยวชมเล่นน้ำและรับประทานอาหารกันเป็นจำนวนมากในวันหยุดหรือนัดวันนักขัตฤกษ์ และยังมาเที่ยวชมแหล่งธรรมะ ตามรอยพระเกจิอาจารย์ เช่น วัดภูทอก เจดีย์พระอาจารย์จวน กุลเชฏโฐ และวัดป่าดานสามัคคีของหลวงปู่ทุย ซึ่งวันหยุดเสาร์อาทิตย์จะมีผู้มาปฏิบัติธรรมที่เดินทางจากกรุงเทพฯและต่างจังหวัดที่มาฟังธรรมะข้อคิดดีๆ จากทางหลวงปู่ทุยเป็นประจำ เป็นต้น ดังนั้น การสร้างสนามบินจังหวัดบึงกาฬ จึงมีความสำคัญเหมาะสม เพื่อสร้างเศรษฐกิจและสังคมตามแนวชายแดนต่อไป.
ขอขอบคุณข่าวสยามรัฐ อ่านข่าวได้ที่ https://siamrath.co.th/n/168443
‘>