LINE : ติดต่อผู้ดูแล

ยินต้อนรับเว็บไซต์ข่าวสารเพจข่าวท้องถิ่นบึงกาฬ

วันศุกร์ที่ 22 พฤศจิกายน 2024
ข่าวสังคม-การเมือง

ชาวนาบึงกาฬหันมาปลูกหวายขมสร้างรายได้ ยิ่งหน้าแล้ง ยิ่งมีมูลค่าสูง

14473910661447391146l

นางถวิล หงส์ทอง ชาวบ้านในหมู่ที่ 6 บ้านท่าโพธิ์  ต.บึงกาฬ อ.เมืองบึงกาฬ จ.บึงกาฬ ซึ่งเป็นเกษตรกรผู้ปลูกหวายกล่าวว่า เมื่อก่อนหวายขมในเมืองไทยจะหายากมากเพราะเป็นหวายที่เกิดจากธรรมชาติใครอยากกินหวายต้องสั่งซื้อมาจากประเทศลาว ต่อมาหวายขมในประเทศลาวก็เริ่มหายาก ตนจึงมองเห็นเป็นโอกาสที่จะสร้างรายได้จึงสั่งซื้อพันธุ์หวายจากประเทศลาวมาปลูกขายและนับเป็นเจ้าแรกๆที่ปลูกหวายขมขายโดยแบ่งที่นาจำนวน 1 ไร่มาปลูก

หวายขม เป็นหวายที่มีขนาดประมาณหัวแม่มือ ใบเล็กยาวคล้ายใบระกำ เนื้อเปราะง่าย ไม่ทนทาน ไม่นิยมนำมาจักสาน แต่หน่อและยอดใช้รับประทานได้ มีรสขมเล็กน้อย ยอดอ่อน ดอกอ่อน หน่ออ่อน นำมาปรุงอาหารได้หลายเมนู อาทิ แกงอ่อม แกงหวายขมใส่กระดูกหมู เป็นต้น การปลูกหวายขมสามารถปลูกได้ 4 วิธี คือ การปลูกด้วยเมล็ด การปลูกด้วยเหง้า การปลูกด้วยต้นกล้าจากป่า และการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ การปลูกในช่วงนี้จะไม่ค่อยให้น้ำมากนัก แต่เน้นที่การกำจัดวัชพืชเป็นพิเศษ ส่วนการใส่ปุ๋ยจะใส่ปุ๋ยคอกอัตรา 1-2 กำ/ต้น ทุกๆ 2-3 เดือน ร่วมกับปุ๋ยเคมีสูตร 15-15-15ประมาณ 1 หยิบมือ/ต้น

นางถวิลกล่าวว่า หวายขมจึงเป็นที่นิยมมากกว่าหวายชนิดอื่นๆเพราะมีรสชาติขมเมื่อนำไปประกอบอาหารแล้วจะมีรสชาติ อร่อย ออกรสขมเล็กน้อยชาวบ้านเชื่อว่ากินแล้วเป็นยารักษาโรคสารพัดชนิด  การปลูกหวายขมขายนับว่าเป็นอาชีพเสริมที่สร้างรายได้ดีชนิดหนึ่งโดยเฉพาะช่วงหน้าแล้งหวายขมจะออกสู่ท้องตลาดน้อยราคาจะเพิ่มสูงขึ้นจากเมื่อก่อนเคยขาย 80หน่อต่อ 100 บาท  พอเข้าสู่หน้าแล้งราคาก็ขยับขึ้นมาอยู่ที่ 60 หน่อต่อ 100 บาท วันหนึ่งตัดหน่อหวายขายจำนวน 1,500 – 2,000 หน่อ รายได้ก็จะตกอยู่ที่วันละ 600-1,000 กว่าบาท โดยส่วนมากลูกค้าจะโทรมาสั่งตอนเช้าตกเย็นก็จะมารับแล้วนำไปขายตามตลาดสดหรือตามตลาดนัดต่างๆ นับว่ามีรายได้ดีกว่าปลูกพืชชนิดอื่นๆ’>

ข่าวสังคม-การเมือง ล่าสุด

อัพเดทล่าสุด