ภูสิงห์ ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ตำบลโคกก่อง อำเภอเมืองบึงกาฬ ห่างจากตัวเมืองประมาณ 26 กม. อยู่ในเขตพื้นที่อนุรักษ์ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าดงดิบกะลา ป่าภูสิงห์ และป่าดงสีชมพู เนื้อที่ประมาณ 12,000 ไร่ สภาพภูมิประเทศเป็นภูเขาหินทรายทอดตัวไปตามทิศเหนือ-ใต้ ครอบคลุมพื้นที่อำเภอศรีวิไลกับอำเภอเมืองบึงกาฬ มีทรัพยากรป่าไม้ที่คงสภาพสมบูรณ์
และที่ขาดไม่ได้สำหรับนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวชมธรรมชาติ คือจุดชมวิวหินสามวาฬ ซึ่งเป็นจุดไฮไลท์ของภูสิงห์ ที่เป็นหินขนาดใหญ่ติดหน้าผาสูง แยกเป็น 3 ก้อน มองไกลหรือมองจากภาพถ่ายทางอากาศ มีรูปร่างคล้ายปลาวาฬ พ่อ แม่ ลูก กำลังว่ายน้ำกันอย่างสนุกสนาน จึงเรียกกันว่า”หินสามวาฬ”เป็นจุดชมวิวที่สวยงามโดดเด่น อยู่ด้านตะวันออกภูสิงห์ เป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้า สามารถยืนชมทัศนียภาพของป่าภูวัว ห้วยบังบาตร แก่งสะดอก หาดทรายแม่น้ำโขงและภูเขาเมืองปากกระดิ่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว
เช้าวันนี้สภาพอากาศเป็นใจเกิดปรากฏการณ์ทะเลหมอกในตอนเช้าให้นักท่องเที่ยวจำนวนมากได้ชมความงดงามของธรรมชาติ ผ่านทิวทัศน์สองฝั่งโขงที่สวยงามของจังหวัดบึงกาฬที่ตั้งอยู่เหนือสุดแดนอีสาน ของประเทศไทย
ด้านนายกลินท์ สารสิน กล่าวว่า รองประธานกรรมการหอการค้าไทยและประธานกรรมการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยพร้อมคณะกรรมการหอการค้ากลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน1 และ 2 ได้แก่จังหวัดอุดรธานี หนองบัวลำภู หนองคาย เลย บึงกาฬ มุกดาหาร สกลนคร นครพนม ที่มาเที่ยวชมภูสิงห์ในครั้งนี้ว่า มีความประทับใจกับแหล่งท่องเที่ยวของจังหวัดบึงกาฬมาก ถือว่าเป็น Unseen Thailand ตัวใหม่
ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนับสนุนและส่งเสริมให้คนมาเที่ยวชม ซึ่งคนไทยอีกหลายคนที่ยังไม่เคยเห็น ต่อไปจะให้ ททท.เข้ามาสำรวจเพื่อเตรียมความพร้อมที่จะรองรับนักท่องเที่ยวที่จะเข้ามาจำนวนมาก
‘>