ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ต่อมา 14.00 น.นายธนาธร พร้อมทีมงานได้เดินทางต่อไปที่ จ.บึงกาฬ เพื่อพบกับนายภูมิพันธุ์ บุญมาตุ่น ว่าที่ผู้สมัครนายก อบจ.บึงกาฬ ในนามคณะก้าวหน้า ร่วมเดินทางสำรวจพื้นที่ โดยเริ่มต้นที่บ้านหอคำ ต.หอคำ อ.เมืองบึงกาฬ ซึ่งเป็นหมู่บ้านท่องเทียววิถีชีวิตริมแม่น้ำโขง เป็นหมู่บ้านชาวลาวเวียง อพยพโยกย้ายมาจากนครหลวงเวียงจันทร์ มีอายุกว่า 300 ปี ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่มีทิวทัศน์ริมแม่น้ำโขงงดงาม ทั้งนี้ ร่วมพูดคุยกับประชาชนในหมู่บ้าน ร่วมเสนอแนวทางการท่องเที่ยว ที่แม้ที่ผ่านมาจะได้รับรางวัลด้านการท่องเที่ยววิถีชุมชนจากหน่วยงานภาครัฐ แต่ในความเป็นจริงแล้วก็ยังไม่เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวทั่วไป และไม่มีนักท่องเที่ยวเข้ามามากเท่าใดนัก จากนั้น นายธนาธรและคณะก้าวหน้าเดินทางไปเยี่ยมชมสวนสาธารณบึงกาฬ เดินตลาดสด ก่อนที่จะไปที่ด่านศุลกากรบึงกาฬ ซึ่งจะเป็นจุดเริ่มต้นที่นายภูมิพันธุ์ตั้งใจจะให้เป็นจุดเริ่มต้นมีบริการขนส่งสาธารณะ แบ่งเป็น 2 เส้นทางจากบริเวณดังกล่าว เข้ามาในตัวเมือง ผ่านสถานที่สำคัญๆ อาทิ ตลาด โรงเรียน โรงพยาบาล ศูนย์ราชการ และไปสิ้นสุดที่วัดท่าไคร้ เพื่อให้ประชาชนเดินทางได้สะดวกและลดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง
กระทั่งเวลา 17.00 น. นายธนาธร และนายภูมิพันธุ์ เดินทางต่อไปยังโรงเรียนบุ่งคล้านคร อ.บุ่งคล้า จ.บึงกาฬ เพื่อร่วมกิจกรรมการแข่งขันกีฬา “ก้าวหน้าคัพ” ซึ่งจัดโดยทีมผู้สมัคร อบจ.บึงกาฬ ของคณะก้าวหน้า ที่มีนายรชานนท์ ศรีนอก อดีตนักฟุตบอลทีมชาติไทย ซึ่งแขวนสตั๊ดและมาร่วมลงการเมืองท้องถิ่นในนามคณะก้าวหน้า เป็นโต้โผสำคัญในการจัดการแข่งขันครั้งนี้ ซึ่งกิจกรรมดังกล่าวเป็นหนึ่งในนโยบายการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ “ดนตรีกีฬาพัฒนาสู่สากลอาชีพ” ของทีมผู้สมัคร อบจ.บึงกาฬ คณะก้าวหน้า ทั้งนี้ นายภูมิพันธ์ กล่าวว่า เยาวชนจังหวัดบึงกาฬเป็นผู้ที่มีศักยภาพด้านดนตรีและกีฬา มีหลายคนไต่เต้าด้วยตัวเองไปจนประสบความสำเร็จ จนมีชื่อเสียงระดับประเทศ ทั้งด้านดนตรีและกีฬา เช่น นายรชานนท์ ซึ่งจะลงสมัคร สมาชิก.อบจ. ในทีมคณะก้าวหน้า ก็เป็นถึงนักฟุตบอลทีมชาติไทย ดังนั้น ถ้ามีการส่งเสริมท้้ง 2 ด้านนี้ คาดว่าจะช่วยสนับสนุนให้เยาวชนชาวบึงกาฬได้เดินตามความฝัน นำความสำเร็จมาสู่ตนเองได้ง่ายขึ้น และกิจกรรมอย่างดนตรีและกีฬาก็ยังเป็นสิ่งที่ช่วยให้เยาวชนของเราห่างไกลจากอบายมุข ยาเสพติดได้ด้วย
‘>