POLITICS: ‘ปิยบุตร’ ช่วยผู้สมัครหาเสียงชิงนายก อบจ.บึงกาฬ ชูนโยบายสร้างมูลค่าเพิ่มยางพารา-เศรษฐกิจจากท่องเที่ยว
วันนี้ (7 พ.ย. 63) ที่ตลาดบึงโขงหลง อ.บึงโขงหลง จ.บึงกาฬ นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า พร้อมด้วยนายภูมิพันธ์ บุญมาตุ่น ผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) บึงกาฬ (เบอร์ 2) พร้อมผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (ส.อบจ.) บึงกาฬทั้ง 21 เขต ในนามคณะก้าวหน้า ร่วมเปิดเวทีปราศรัย พร้อมเดินตลาดพบปะหาเสียงกับประชาชน เพื่อรณรงค์การเลือกตั้งในระดับทองถิ่นที่จะเกิดขึ้นทั่วประเทศในวันที่ 20 ธันวาคม นี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงหนึ่งของการปราศรัย นายปิยบุตร ได้กล่าวถึงความเป็นมาของคณะก้าวหน้าในการทำงานการเมืองท้องถิ่น และความสำคัญของจังหวัดบึงกาฬ โดยระบุว่า ตั้งแต่สมัยที่เป็นพรรคอนาคตใหม่ มีนโยบายสำคัญคือเรื่องการกระจายอำนาจ ทวงคืนอำนาจรัฐที่กระจุกอยู่ที่ศูนย์กลางเมืองหลวง งบประมาณมหาศาลที่ไปกระจุกตัวยู่ที่ศูนย์กลาง ต้องเอากลับมาไว้ที่ท้องถิ่น โดยมีความตั้งใจว่าจะส่งผู้สมัครท้องถิ่นลงในทุกระดับในนามของพรรคอนาคตใหม่ แม้ว่าวันนี้พรรคอนาคตใหม่จะถูกยุบไปแล้ว แต่เราก็ยังคงยืนหยัดต่อสู้ เริ่มต้นใหม่เป็นคณะก้าวหน้า ครั้งนี้ ตัดสินใจส่งผู้สมัคร อบจ.ในนามคณะก้าวหน้าทั้งสิ้น 41 จังหวัด และหนึ่งในนั้นคือจังหวัดบึงกาฬ จังหวัดที่ 77 ของประเทศไทย ที่เราให้ความสำคัญไม่แพ้จังหวัดอื่น และการส่งนายก อบจ.ลงพื้นที่นี้ เป็นดำริของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ที่เห็นโอกาสและศักยภาพของจังหวัดน้องใหม่ แม้คนทั่วไปมองว่าเป็นเพียงจังหวัดเล็กๆ แต่เราเห็นโอกาสที่จะเข้ามาบริหาร และสมัยเป็นพรรคอนาคตใหม่ เราเปิดโอกาสให้ประชาชนที่อยากมาทำงานกับเรามาทำงานร่วมกัน จนได้คนรุ่นใหม่ไฟแรงเข้ามา นั่นคือ คุณภูมิพันธ์ ที่ยังยืนหยัดอยู่กับเราจนมาเป็นคณะก้าวหน้า ไม่เคยเปลี่ยนแปรอุดมการณ์ไปไหน
นายปิยบุตร กล่าวด้วยว่า เรากำลังจะมีการเลือกตั้งท้องถิ่นในวันที่ 20 ธันวาคม 2563 นี้ ในกรณีของจังหวัดบึงกาฬยิ่งมีความสำคัญ เพราะตั้งแต่ได้รับการจัดตั้งเป็นจังหวัดที่ 77 มา ชาวบึงกาฬยังไม่เคยได้เปลี่ยนตัวนายก อบจ.เลยแม้แต่ครั้งเดียว ตนจึงอยากชวนพี่น้องประชาชนว่ามาเปลี่ยนดูไหม ว่าให้คนรุ่นใหม่ได้ขึ้นมาบริหารบึงกาฬแล้วจะดีกว่าเดิมหรือไม่ เวลาเราพูดกันถึงการเลือกตั้ง อบจ.หรือการเลือกตั้งท้องถิ่น ประชาชนหลายคนไม่ค่อยให้ความสำคัญหรือให้ความสนใจเท่ากับการเลือกตั้ง ส.ส. ที่จะไปเลือกนายกรัฐมนตรีและจัดตั้งรัฐบาล เพราะที่ผ่านมาการเลือกตั้งท้องถิ่นมักจะวนเวียนอยู่ในวงศ์วานว่านเครือ อยู่กับเครือข่ายกลุ่มเดิมๆ หรือที่เรียกว่า “บ้านใหญ่” ของแต่ละจังหวัดวนไปเวียนมา ครั้งนี้ คณะก้าวหน้าจึงต้องการเข้ามาเปลี่ยนแปลงตรงนี้ด้วย เราอยากให้การเมืองท้องถิ่นเป็นการเมืองแบบใหม่ เป็นการเมืองของคนทุกๆ คน เป็นการเมืองของพี่น้องชาวจังหวัดบึงกาฬทุกคนเข้ามามีส่วนร่วมได้ ไม่ต้องรู้จัก ไม่ต้องเป็นเครือข่ายของบ้านใหญ่ที่ไหน
ด้าน นายภูมิพันธ์ กล่าวว่า วันนี้ตนและว่าที่ผู้สมัคร ส.อบจ. ทั้ง 24 คน 24 เขต ครบทั้งหมดในจังหวัดบึงกาฬ พร้อมแล้วที่จะเป็นตัวแทนของคณะก้าวหน้า โดยที่ผ่านมา ในการออกแบบนโยบาย มีโอกาสได้พูดคุยกับพี่น้องประชาชนแล้วก็เห็นว่า นโยบายสำคัญที่สุดคือเรื่องยางพารา เราถามกันมากว่าทำไมยางพาราถึงราคาต่ำ สาเหตุนั่นก็เป็นเพราะว่า เราไม่ได้เป็นคนกำหนดราคาเอง และที่เราไม่อาจกำหนดราคาเองได้ ก็เพราะเราไม่ใช่เจ้าของโรงงาน ดังนั้น นโยบายหนึ่งที่ตนและทีมงานคณะก้าวหน้าจะเข้ามาดูแลก็คือเรื่องพืชเศรษฐกิจอย่างยางพารา บึงกาฬเป็นจังหวัดที่ปลูกยางพาราเป็นอันดับ 1 ของภาคอีสาน และเป็นอันดับ 4 ของประเทศ ขับเคลื่อนเศรษฐกิจของจังหวัดเป็นเรื่องยางพาราเป็นหลัก ทำอย่างไรก็ได้เพื่อเพิ่มมูลค่าของยางพาราขึ้นมา โดยเปลี่ยนจากการปลูกที่เกษตรกรส่งยางขายเพียงอย่างเดียวเป็นการแปรรูป คิดในเรื่องการพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อเพิ่มมูลค่า
“อีกหนึ่งเรื่องสำคัญที่ผมได้และทีมคณะก้าวหน้าได้ออกแบบนโยบายไว้นั่นคือ ด้านการท่องเที่ยว ซึ่งเป็นเรื่องที่ตัวเองเชี่ยวชาญโดยตรง เพราะทำงานเกี่ยวกับด้านนี้มาอย่างยาวนาน และปัจจุบันก็เป็นนายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดบึงกาฬ และการจะยกระดับและพัฒนาในเรื่องนี้ได้ แรกสุ่ดเราต้องตั้งธงไว้ก่อนเลยว่า เราจะเป็นเมืองอะไร จังหวัดบึงกาฬ เป็นเมือง 4 โขง 4 เขา ใช่หรือไม่ อย่างนี้ต้องประชาสัมพันธ์ดึงดูดนักท่องเที่ยว ทำให้คนรู้จักให้มากขึ้น หรือแม้แต่การจัดงานเทศกาลต่างๆ เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเที่ยวในจังหวัด จะเป็นการยกระดับพัฒนาจังหวัด และสร้างรายได้ให้กับพี่น้องชาวบึงกาฬ เป็นเศรษฐกิจที่มาจากการท่องเที่ยว” นายภูมิพันธ์ กล่าว
#Theareporter #เดอะรีพอร์ตเตอร์ #หาเสียง #นายกอบจ #บึงกาฬ #คณะก้าวหน้า
‘>