เมื่อเวลาประมาณ 15.30 น.วันที่ 29 พ.ย. ร.ต.อ.ณัฐดน สุวรรณโค รอง.สว.(สอบสวน) สภ.โสกก่าม อ.เซกา จ.บึงกาฬ รับแจ้งจากนายไกรวัลย์ นนท์ธิบุตร ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 3 บ้านดอนเสียด ต.บ้านต้อง ว่ามีช้างป่าทำร้ายพระธุดงค์มรณภาพบนภูวัว ภายในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูวัว ห่างจากหมู่บ้านประมาณ 8 กิโลเมตร จึงได้รายงานส่วนเกี่ยวข้องได้รับทราบ เดินทางไปชันสูตรพร้อมด้วย พ.ต.ท.ประดุง วงชารี สว.หัวหน้าสถานี พญ.ธนานนทน์ หอมแพน แพทย์เวร รพ.เซกา สมาคมกู้ภัยบึงโขงหลงฐานภูลังกา จนท.เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูวัว ฝ่ายปกครองและกำนันผู้ใหญ่บ้าน ใช้เวลาเดินทางขึ้นเขาภูวัวประมาณ 1 ชั่วโมงไปถึงที่เกิดเหตุเป็นลานหินทรายกว้างในป่าลึก ซึ่งชาวบ้านแถบนี้เรียกบริเวณดังกล่าวว่าลาน”ปลากั้ง” พบเพียงผ้าใบกางบังหมอกในตอนกลางคืนและบังแดดในตอนกลางวันกางอยู่ระหว่างต้นไม้ใหญ่ 2 ต้นบนก้อนหินทรายที่ด้านล่างมีลำธารน้ำเล็กๆ ไหลผ่าน ใกล้กันมีรองเท้าแตะแบบคีบสีเหลืองถอดวางบนก้อนหิน ด้านล่างมีกาต้มน้ำร้อนวางอยู่ใกล้กองไฟที่ดับแล้ว ใกล้กันมีเทียน 4-5 เล่มตก มีถุงพลาสติกสีขาวคลอบเสาไม้เล็กๆ คาดว่าใช้บังลมเวลาจุดเทียนให้แสงสว่างตอกกลางคืน ห่างออกไปจากจุดปักกลดประมาณ 30 เมตรพบศพพระนอนมรณภาพอยู่กลางลานหินทราย โดยมีจีวร ย่ามและไฟฉายตกอยู่ห่างจากศพประมาณ 4 เมตร
ทราบชื่อต่อมาตามใบบัตรประชาชนพระและใบสุทธิว่า พระมหาพรภวิษย์ กติกาหรือฉายา วรธัมโม อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 361 หมู่ที่ 5 บ้านบ่อแก้ว ต.พานทอง อ.ไทรงาม จ.กำแพงเพชร บวชพระมาได้เพียง 1 พรรษาและจำวัดอยู่ที่วัดบ่อแก้ว ต.พานทอง อ.ไทรงาม สังกัดมหานิกาย สภาพศพนอนตะแคงด้านซ้ายสวมใส่เพียงสบงและอังสะ ตามร่างกายมีร่องรอยเป็นแผลถลอกเต็มไปทั่ว คอหัก แขนซ้ายหัก บริเวณหน้าผากมีรอยถลอกเป็นแผลฉกรรจ์ มีเลือดและอาหารเก่าไหลออกทางปากจนแห้งเกรอะติดพื้นหิน คาดการณ์ว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่น้อยกว่า 10 ชั่วโมง คาดว่าถูกช้างป่าภูวัวทำร้ายจนมรณภาพ และพบกองขี้ช้างอยู่ใกล้ๆ จึงนำศพไปชันสูตรที่ รพ.เซกาอย่างละเอียดอีกครั้ง
‘>