“…เมื่อไปถึงชายที่ไม่ทราบชื่อดังกล่าว เรียกนาย A ไปพบและบอกว่า “มารับเลย ๆ” จากนั้นได้มอบซองกระดาษสีน้ำตาล ภายในบรรจุซองกระดาษสีขาว ภายในซองขาวบรรจุเงินซองละ 200 บาท มัดรวมกันไว้ 14 มัด 261 ซอง โดยแต่ละมัดซองสีขาวบนสุดจะระบุหมายเลข และตัวอักษร เป็นเลขของหมู่ และหมู่บ้านใน ต.บ้านต้อง โดยระบุจำนวนซอง ตรงกับจำนวนสมาชิก อสม.แต่ละหมู่บ้าน…”
……………………….
เมื่อวันที่ 4 ม.ค. 2564 ที่ผ่านมา คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ประกาศผลการเลือกตั้งนายก และสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ที่มีการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 20 ธ.ค. 2564 ที่ผ่านมา ลอตแรกจำนวน 12 จังหวัด โดยเป็นจังหวัดที่ไม่มีเรื่องร้องเรียน หรือมีเรื่องร้องเรียนแต่ไม่เกี่ยวข้องกับผู้ได้รับเลือกตั้ง หรือเป็นเรื่องร้องเรียนที่ กกต.เห็นว่า ไม่มีผลทำให้การเลือกตั้งไม่สุจริต
(อ่านประกอบ : เช็คเลย! กกต.รับรองผลนายก อบจ.ลอตแรก 12 จว.ไร้เรื่องร้อง-บางที่ไม่เกี่ยวผู้สมัคร)
เบื้องต้นใน 12 จังหวัดดังกล่าว ยังไม่มีการรับรองผลใน จ.บึงกาฬ แต่อย่างใด ?
อาจเป็นไปได้ว่า ปัจจุบัน กกต.บึงกาฬ ยังอยู่ระหว่างการสืบสวน กรณีกล่าวหาทีมงานผู้สมัครนายก อบจ.บึงกาฬ ชื่อดังรายหนึ่ง กรณีแจกเงินให้ อสม.รายหัว หัวละ 200 บาท เพื่อจูงใจให้เลือกผู้สมัครนายก อบจ. รายนี้
ข้อกล่าวหาข้างต้น มี อสม.อย่างน้อย 3 ราย เข้าให้การแก่ กกต.บึงกาฬ พร้อมมอบพยานหลักฐานเป็นภาพถ่าย-คลิปวีดีโอจำนวนหนึ่ง ที่ปรากฏภาพว่า มีการแจกเงินใส่ซองให้แก่ อสม. แก่ กกต.บึงกาฬ ด้วย (อ่านประกอบ : เปิดเอกสารร้อง กกต.สอบทีมงานผู้สมัครนายก อบจ.บึงกาฬ แจก อสม.หัวละ 200 บ.จูงใจเลือกตั้ง)
เพื่อให้สาธารณชนเข้าใจเรื่องชัดขึ้น สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) นำพฤติการณ์-ข้อกล่าวหาดังกล่าว มานำเสนอให้ทราบ ดังนี้
กรณีแรก อสม.รายหนึ่ง (นาย A นามสมมติ) ในพื้นที่ ต.บ้านต้อง อ.เซกา จ.บึงกาฬ เป็นผู้กล่าวหา แจ้งต่อผู้รับแจ้งเหตุ (เจ้าหน้าที่สืบสวน กกต.บึงกาฬ) ว่าได้รับเงินจากชายไม่ทราบชื่อ โดยนาย A อ้างว่า ได้รับการติดต่อจากประธาน อสม.รายหนึ่งในพื้นที่ ต.บ้านต้อง ให้ไปพบที่บ้าน โดยแจ้งว่ามีคนต้องการพบ นาย A จึงเดินทางไปถึงบ้านของประธาน อสม.รายดังกล่าว
ต่อมานาย A ได้พบกับประธาน อสม. กับพวก รวมถึง น.ส. B (ผู้กล่าวหากรณีถัดไป) และชายคนหนึ่งไม่ทราบชื่อ ซึ่งนาย A ไม่รู้จักมาก่อน เมื่อไปถึงชายที่ไม่ทราบชื่อดังกล่าว เรียกนาย A ไปพบและบอกว่า “มารับเลย ๆ” จากนั้นได้มอบซองกระดาษสีน้ำตาล ภายในบรรจุซองกระดาษสีขาว ภายในซองขาวบรรจุเงินซองละ 200 บาท มัดรวมกันไว้ 14 มัด 261 ซอง โดยแต่ละมัดซองสีขาวบนสุดจะระบุหมายเลข และตัวอักษร เป็นเลขของหมู่ และหมู่บ้านใน ต.บ้านต้อง โดยระบุจำนวนซอง ตรงกับจำนวนสมาชิก อสม.แต่ละหมู่บ้าน
นาย A จึงถามว่าเป็นเงินอะไร แล้วให้เอาไปทำอะไร ชายไม่ทราบชื่อรายดังกล่าวบอกว่า เป็นซองเงินเฉพาะของผู้สมัครนายก อบจ.บึงกาฬ ชื่อว่า xxx ให้นำไปแจกให้ อสม.ทุกรายใน ต.บ้านต้อง นาย A ไม่สบายใจ ในการกระทำดังกล่าว จึงนำเรื่องมาแจ้งต่อ กกต.บึงกาฬ มีบุคคลที่รู้เห็นการกระทำคือ ประธาน อสม.-พวก และ น.ส. B นาย A ได้มอบซองกระดาษสีน้ำตาลจำนวน 1 ซอง ซองขาวบรรจุธนบัตรจำนวน 261 ซอง และธนบัตรใบละ 100 บาท จำนวน 522 ฉบับ (เป็นเงิน 52,200 บาท) ให้แก่ผู้รับแจ้งเหตุขณะแจ้งด้วย
กรณีที่สอง น.ส. B ได้มาแจ้งเหตุต่อผู้รับแจ้งเหตุ (เจ้าหน้าที่สืบสวน กกต.บึงกาฬ) อ้างว่า ได้รับเงินจากชายไม่ทราบชื่อ โดยบุคคลดังกล่าวบอกว่า “เป็นของ xxx ให้เอาไปแจก อสม.ทุกคน” น.ส. B รู้สึกไม่สบายใจ คิดว่าเงินดังกล่าวอาจเป็นเงินที่ผู้สมัครนายก อบจ.บึงกาฬ รายหนึ่ง ให้นำไปแจกซื้อเสียงให้แก่ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ในการเลือกตั้งนายก อบจ.บึงกาฬ มีบุคคลที่รู้เห็นการกระทำดังกล่าวได้แก่ ประธาน อสม.รายหนึ่ง-พวก รวมถึงนาย A จึงได้นำซองจดหมายที่ใส่เงินจำนวน 23 ซอง รวมเป็นเงิน 4,600 บาท ให้แก่ผู้รับแจ้งขณะแจ้งด้วย
กรณีที่สาม นาย C ประธาน อสม.รายหนึ่งในพื้นที่ ต.พรเจริญ แจ้งเหตุต่อผู้รับแจ้งเหตุ (เจ้าหน้าที่สืบสวน กกต.บึงกาฬ) อ้างว่า มีการนัดประชุม อสม.ในพื้นที่ ต.พรเจริญ ไปประชุมที่วัดแห่งหนึ่ง โดยมีเจ้าหน้าที่จากสาธารณสุขบึงกาฬมามอบนโยบาย จากนั้นมีตัวแทนทีมงาน อ้างว่ามาติดตามงาน และได้บอกประธาน อสม.แต่ละหมู่บ้าน ให้ไปบ้างบุคคลหนึ่ง เมื่อประธาน อสม. แต่ละหมู่บ้านไปถึงบ้านบุคคลรายนี้ มีชายคนหนึ่งพูดว่าให้สนับสนุนคุณ xxx เพื่อจะได้มาพัฒนา จ.บึงกาฬ จากมีทีมงานเรียกประธาน อสม.แต่ละหมู่บ้านเข้ารับซองตามจำนวน อสม.แต่ละหมู่บ้าน โดยมีเงินในซอง ซองละ 200 บาท
อย่างไรก็ดีกรณีดังกล่าว ผู้สมัครนายก อบจ.บึงกาฬ ที่ถูกพาดพิงในกรณีนี้ ได้ปฏิเสธ และเข้าแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษต่อ นาย A ข้อหาแจ้งความเท็จ และหมิ่นประมาทแล้ว เมื่อช่วงปลายเดือน ธ.ค. 2563 ที่ผ่านมา
ทั้งหมดคือพฤติการณ์-ข้อกล่าวหาเกี่ยวกับเงื่อนปมทีมงานผู้สมัครนายก อบจ.บึงกาฬ ‘ชื่อดัง’ รายหนึ่งควักเงินจ่ายหัวละ 200 บาทแก่ อสม. ส่วนเงินดังกล่าวมาจากส่วนใด เป็นเงินหลวง หรือเงินส่วนตัว และแจกเพื่อวัตถุประสงค์อะไร คงต้องรอการสืบสวนจาก กกต.อีกครั้ง?
ร้องสอบทีมงานผู้สมัครนายก อบจ.ชื่อดัง จ.บึงกาฬ มีพฤติการณ์นำเงินมามอบแก่ อสม.อย่างน้อย 2 ตำบล ‘บ้านต้อง-พรเจริญ’ ซองละ 200 บาท จูงใจในการเลือกตั้ง เจ้าตัวแจ้งกลับกล่าวหาหมิ่นประมาท-แจ้งความเท็จ – กกต.รับเรื่องไปสืบสวนแล้ว
…………………………..
ภายหลังสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จัดการเลือกตั้งนายก และสมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ทั่วประเทศ เมื่อวันที่ 20 ธ.ค. 2563 ที่ผ่านมา โดยมีการประกาศคะแนนว่าที่ผู้ชนะนายก อบจ.อย่างไม่เป็นทางการไปแล้วนั้น (อ่านประกอบ : เช็คที่นี่! กกต.แพร่ผลเลือกตั้ง อบจ.-บ้านใหญ่ยังแกร่ง-พัทลุงแชมป์มาใช้สิทธิมากสุด)
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ตรวจสอบพบว่า ในพื้นที่ จ.บึงกาฬ มีการร้องเรียนถึงความไม่ชอบมาพากลในการซื้อเสียงกับ กกต.บึงกาฬ โดยมีการกล่าวหาผู้สมัครนายก อบจ.รายหนึ่ง ที่ถือเป็นคนดังและมีชื่อเสียงภายใน จ.บึงกาฬ อาจมีพฤติการณ์กระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง
โดยในข้อร้องเรียนดังกล่าว มีบุคคลอ้างว่าเป็นอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ใน ต.บ้านต้อง อ.เซกา จ.บึงกาฬ อย่างน้อย 2 ราย กล่าวอ้างว่า มีทีมงานของผู้สมัครนายก อบจ.รายนี้ นำเงินบรรจุในซอง ซองละ 200 บาท รวมทั้งสิ้นเป็นเงิน 56,800 บาท ระบุว่าเป็นจำนวนสมาชิก อสม. ของแต่ละหมู่บ้านใน ต.บ้านต้อง อ.เซกา จ.บึงกาฬ ตรงกับจำนวนสมาชิก อสม. ในแต่ละหมู่บ้าน เพื่อนำไปแจกจ่ายสมาชิก อสม. ทุกรายใน ต.บ้านต้อง โดยมีการแนบรูปภาพแอบถ่ายตอน อสม.เข้าไปรับเงินบรรจุซองดังกล่าวด้วย
เบื้องต้นกรณีดังกล่าว พนักงานสืบสวนและไต่สวน สำนักงาน กกต.บึงกาฬ ได้รับเรื่องร้องเรียนดังกล่าวลงเลขหมายไว้เพื่อดำเนินการสืบสวนอย่างเป็นทางการแล้วตั้งแต่ต้นเดือน ธ.ค. 2563 ที่ผ่านมา
สำนักข่าวอิศราได้รับการร้องเรียนอีกว่า นอกเหนือจากพื้นที่ ต.บ้านต้อง แล้ว ยังมีการกระทำลักษณะเดียวกันในพื้นที่ ต.พรเจริญ โดยผู้ร้องเรียนอ้างว่าเป็นประธาน อสม.หมู่บ้านแห่งหนึ่งใน ต.พรเจริญ ถูกเชิญไปที่วัดแห่งหนึ่ง โดยมีบุคคลหนึ่งพูดว่าให้สนับสนุนผู้สมัครนายก อบจ.รายนี้เพื่อจะได้มาพัฒนา จ.บึงกาฬ จากนั้นมีทีมงานเรียกประธาน อสม.แต่ละหมู่บ้านเข้ารับซองตามจำนวน อสม.แต่ละหมู่บ้าน มีเงินในซอง ซองละ 200 บาท โดยมีการแนบเอกสารหลักฐานเป็นภาพถ่าย และคลิปวีดีโอการจ่ายเงินเช่นเดียวกัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อเร็ว ๆ นี้ ผู้สมัครนายก อบจ.รายดังกล่าว ได้มีการแจ้งความร้องทุกข์กล่าวหาว่า บุคคลที่มาร้องเรียนต่อ กกต.นั้น แจ้งความเท็จและหมิ่นประมาททำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงแล้ว
ข่าว https://www.isranews.org/article/isranews/94778-isranews-148.html
‘>