◎ ชาติภูมิ
พระราชภาวนาโสภณ วิ. (หลวงปู่เทพา ภูริปัญโญ) นามเดิมชื่อ ประสงค์ นามสกุล สุกทน เกิดเมื่อวันที่ ๒๖ มกราคม พ.ศ. ๒๔๙๓ ณ บ้านเซกาใต้ ตำบลเซกา อำเภอเซกา จังหวัดหนองคาย (ปัจจุบันจังหวัดบึงกาฬ) ตรงกับวันพฤหัสบดี ขึ้น ๘ ค่ำ เดือน ๓ ปีฉลู บิดาชื่อ นายสาวะดี สุกทน และมารดาชื่อ นางอุ่น สุกทน (จันทร์โคตร) มีพี่น้องร่วมบิดามารดา ๒ คน คือ
๑. พระราชภาวนาโสภณ วิ. (หลวงปู่เทพา ภูริปัญโญ)
๒. นายเพิ่ม สุกทน
◎ ปฐมวัย
บิดามารดาของท่านมีอาชีพทำนา โดยส่วนตัวท่านหลวงปู่เทพา ภูริปัญโญ มีนิสัยอ่อนน้อมถ่อมตน รักความสงบ ชอบความเป็นธรรม ไม่เบียดเบียนผู้อื่น ในยามว่างชอบเข้าวัดและคลุกคลีอยู่กับพระเณรที่วัดไตรภูมิ มีนิสัยชอบอยู่คนเดียว
◎ การศึกษา
เรียนจบชั้น ประถมศึกษาปีที่ ๖
นักธรรมชั้นเอก
◎ บรรพชา
เมื่ออายุ ๑๓ ปี ได้บรรพชาเป็นสามเณร เมื่อวันที่ ๑๑ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๐๖ โดยมี เจ้าอธิการผดุง สุกิกมฺโม อดีตเจ้าอาวาสวัดไตรภูมิเซกา เป็นพระอุปัชฌาย์ ชอบเรียนธรรมกรรมฐาน ชอบครูบาอาจารย์ที่มีกิริยามารยาทงดงาม เคร่งครัดพระธรรมวินัย และตอนเป็นสามเณรนี้เอง เคยฟังธรรมของพระอาจารย์ฝั้น อาจาโร ในเวลาที่ท่านจะเดินทางขึ้นไปบนภูงัว ท่านจะมาแวะพักแรมที่เซกาทุกคราว
◎ ไปธุดงค์ประเทศลาว
เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๐๙ บวชเป็นสามเณรได้ ๔ พรรษา ไปเข้าปฏิบัติกัมมัฏฐาน และศึกษาธรรมกับ พระครูภาวนานุศิษฏ์ (หลวงปู่คำสิงห์ สุภทฺโท) วัดสิงหารินทาราม อ.บึงโขงหลง จ.บึงกาฬ พอออกพรรษาแล้วไปเที่ยวธุดงค์กับพระอาจารย์มหาทองดี มหาวีโร ได้ไปพักอยู่แถวถ้ำพระ ถ้ำบูชา (ภูวัว)
◎ อุปสมบท
อุปสมบทเป็นพระภิกษุ เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๑๔ ตรงกับวันอาทิตย์ที่ ๗ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๑๔ โดยมี ท่านเจ้าคุณพระสุเมธีวรคุณ (หลวงพ่อหวล สุขิโต) เจ้าอาวาสวัดคลองวาฬ และเจ้าคณะจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นพระอุปัชฌาย์ พระครูประกิตสุทธิการ วัดห้วยยาง เป็นพระกรรมวาจารย์ และ พระปลัดขจร อินฺทริโย วัดคลองวาฬ เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับนามฉายาว่า “ภูริปญฺโญ” แปลว่า “ผู้มีปัญญาหนักแน่นดุจแผ่นดิน”
◎ ก่อตั้งวัดบ้านเซกา
ปี พ.ศ. ๒๕๑๕ กลับคืนมาอยู่บ้านเกิด จำพรรษาที่วัดไตรภูมิ เพื่อช่วยกิจการงานคณะสงฆ์อำเภอเซกา สมัยพระอาจารย์มหาแดง จนฺทสาโร ต่อมาเป็นพระครูกุนนทีคณารักษ์ แต่ชอบความสงบจึงออกมาพักจำพรรษาอยู่ป่าดงไร่ ห่างจากวัดไตรภูมิมาทางจังหวัดอุดรธานีไม่ไกลนัก ในช่วงอยู่ป่าดงไร่นี้ คืนหนึ่งนิมิตเห็นคนแก่ประมาณ ๕-๖ คน พาไปขุดเอาไหเงิน แต่ไปแล้วไม่ได้ขุด จะมีคนขุดไว้ให้ก่อนแล้ว มีแต่เก็บเอาจนพอตามต้องการ อาตมาจึงคิดว่าพระภูมิเจ้าที่ท่านต้องการให้สร้างวัดในที่แห่งนี้ จึงตัดสินใจสร้างวัดที่ป่าดงไร่ นี้ขึ้น เดิมตั้งชื่อว่า วัดสันติมหาวัน ต่อมาทางราชการตั้งให้ใหม่เป็นทางการว่า วัดบ้านเซกา เริ่มอยู่จำพรรษาเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๑๘ เรื่อยมา
◎ สมณศักดิ์
เป็น พระครูสัญญาบัตร ที่ พระครูสันติปัญญาภรณ์
๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๖ เป็น พระราชาคณะชั้นสามัญยก ฝ่ายวิปัสสนาธุระ ที่ พระวิชัยธรรมคณี
๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๙ เป็น พระราชาคณะชั้นราช ฝ่ายวิปัสสนาธุระ ที่ พระราชภาวนาโสภณ วิมลศาสนกิจ มหาคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี
◎ การสร้างวัตถุมงคล
สำหรับการสร้างวัตถุมงคลนั้น หลวงปู่เทพา ภูริปัญโญ ท่านมีแนวคิดว่า.. “วิชาที่ร่ำเรียนมา ถ้าเราตายไปก็จะสูญหายตามไปด้วย จึงอยากจะทำวัตถุมงคลเพื่อเอาไว้ให้ลูกศิษย์ได้บูชาเพื่อเป็นศิริมงคล และใช้คุ้มครองป้องกันตัวเวลาที่ไม่มีหลวงปู่แล้ว”
หลวงปู่เทพา ภูริปัญโญ ได้สร้างวัตถุมงคลไว้หลายรายการหลายรุ่นด้วยกัน มีทั้งเหรียญรุ่นแรก รูปเหมือนเนื้อโลหะ ซึ่งปัจจุบันมี ๗ รุ่น พระสมเด็จ พระกริ่ง พระบูชา (พระมูลเมืองเซกา ที่ชาวอำเภอเซกาและใกล้เคียงต่างเคารพศรัทธา) และยังได้สร้างเครื่องรางต่างๆ อีกจำนวนมาก ได้แก่ ล็อกเก็ตที่บรรจุผง นวภาหลวงอันโด่งดังไว้ด้านหลัง พระผงไม้สาริกาหลงรังซึ่งมีหลากหลายพิมพ์ด้วยกัน มีทั้งลูกนิมิต (ลูกอม) ท่อนไม้สาลิกาหลงรัง พระสิวลีแกะจากไม้สาริกาหลงรัง พระสังขจายน์ พระปิดตา เหรียญรูปเหมือนเนื้อผงว่านไพลดำ ลูกสะกดปัญจโลหะ ทำจากเหล็กไหลห้าชนิด ตะกรุด(มีทั้งตะกรุดปืนแตก ตะกรุดลอยน้ำ ตะกรุดลงถม (แก้วสารพัดนึก) ตะกรุดพระเจ้า ๑๖ พระองค์ ตะกรุดมหาจักรพรรตราธิราช ตะกรุดมหาลาภ) น้ำมันสุกิตติมา ที่เสริมเมตตามหานิยมแก่ผู้ใช้ยิ่งนัก และพระผงรูปเหมือนพิมพ์สี่เหลี่ยม (รุ่น นะอยู่คง)
วัตถุมงคลที่ หลวงปู่เทพา ภูริปัญโญ ได้จัดทำขึ้นเพื่อแจกจ่ายให้แก่ลูกศิษย์รุ่นต่างๆ นั้น แต่ละครั้งที่แจกจะหมดลงอย่างความรวดเร็ว เนื่องมาจากหลวงปู่ท่านเน้นพุทธคุณที่นำไปใช้ได้ผลจริงๆ ในแต่ละครั้งจึงทำได้น้อย แต่เป็นที่ต้องการของลูกศิษย์ทุกคน เพราะผู้ที่นำวัตถุมงคลของหลวงปู่ไปใช้แล้วต่างพบเจอแต่เรื่องดีๆ ทั้งแคล้วคลาด คงกระพันชาตรี มหาอุตม์ มหาอำนาจ มหาบารมี เมตตา มหานิยม โชคลาภ ค้าขายเจริญรุ่งเรือง วัตถุมงคลของหลวงปู่เทพา ภูริปัญโญ จึงเป็นที่เสาะแสวงหาของลูกศิษย์อย่างยิ่ง ความศักดิ์สิทธิ์ในวัตถุมงคลที่หลวงปู่สร้างและแจกนั้นผู้นำไปบูชาทุกคนต่างรู้กันดี
นอกจากนี้อานุภาพความศักดิ์สิทธิ์ในวัตถุมงคลของหลวงปู่เทพา ภูริปัญโญ ยังโด่งดังไปถึงต่างแดน ไม่ว่าจะเป็นประเทศเพื่อนบ้านอย่างประเทศลาว ซึ่งได้เหมารถข้ามฝั่งมาขอไปบูชาไม่น้อย ด้วยประสบการณ์ที่พบเจอเอง แต่หลวงปู่ไม่ได้ให้เช่าบูชา ท่านจะแจกให้ทุกคนที่มาวัด ใครมาขอท่านแจกหมด เว้นแต่ว่าวัตถุมงคลนั้นจะหมดแล้ว หลวงปู่เคยรับนิมนต์ไปทำบุญขึ้นบ้านใหม่หรือแก้อาถรรพ์เจ้าที่แรงยังต่างประเทศก็หลายครั้ง อันเนื่องมาจากศรัทธาของลูกศิษย์ที่อาศัยอยู่ยังต่างแดนนั่นเอง
การสร้างวัตถุมงคลของหลวงปู่นั้น ท่านสร้างเองให้ดีที่สุดเพื่อมอบให้กับลูกศิษย์ หลวงปู่ท่านบอกเสมอว่า.. “ของๆ เราทำจริงเป็นของจริง ไม่ต้องไปโฆษณาหรอก เราไม่ได้ทำเพื่อหาเงิน ของเรามีแต่ทำแจก” วัตถุมงคลของหลวงปู่จึงทำครั้งละไม่มาก และหลวงปู่จะเมตตาอธิษฐานจิตปลุกเสกจนเห็นว่าใช้ได้แล้วจึงจะนำมาแจก ดังนั้นท่านทั้งหลายที่ได้รับวัตถุมงคลจากหลวงปู่ ไปแล้ว จงมั่นใจเถิดว่าวัตถุมงคลนั้นใช้ได้ผลจริง ประสิทธิเมด้วยพรของ หลวงปู่เทพา ภูริปัญโญ จริงๆ
ปัจจุบัน พระราชภาวนาโสภณ วิ. (หลวงปู่เทพา ภูริปัญโญ) ปัจจุบันท่านดำรงตำแหน่ง เจ้าคณะจังหวัดบึงกาฬ เจ้าอาวาสวัดเซกาเจติยาราม พระอารามหลวง อำเภอเซกา จังหวัดบึงกาฬ สิริอายุ ๗๑ ปี พรรษา ๕๒ (พ.ศ. ๒๕๖๔)
หลวงปู่เทพา ภูริปัญโญ ท่านเป็นพระผู้เปี่ยมด้วยเมตตา ท่านช่วยเหลือญาติโยมที่มาขอให้ท่านช่วยเหลือทั้งทางใกล้และทางไกล ท่านช่วยเหลือโดยไม่แบ่งชั้นวรรณะ ถ้าได้ช่วยใครแล้ว หลวงปู่จะติดตามถามไถ่ตลอด ว่าดีขึ้นหรือยัง เป็นปกติหรือยัง ท่านจะเป็นห่วงลูกศิษย์เสมอ หลวงปู่ท่านมีเมตตาต่อทุกคน ท่านจึงมีลูกศิษย์มากมาย ทั้งข้าราชการ ทหาร ตำรวจ นักการเมืองทั้งระดับท้องถิ่นและระดับประเทศ เวลาใครเดือดร้อนหรืออยากให้หลวงปู่ช่วยอะไร หลวงปู่ช่วยหมด ทั้งเจิมรถ ทำน้ำมนต์ แก้อาถรรพ์คุณไสย์ แม้แต่การรักษาโรคต่างๆ บางคนไปหาหมอ ที่โรงพยาบาลหมดเงินไปมากมายแต่ก็ไม่หาย ก็ได้พึ่งบุญบารมีของหลวงปู่ ท่านช่วยเหลือรักษาให้จนหายเป็นปกติ หลวงปู่ท่านรู้จักตำรายาสมุนไพรหลายขนาน สามารถช่วยรักษาโรคต่างๆ แก่ผู้ที่มาขอความช่วยเหลือจากท่าน ให้หายขาดได้มาหลายรายแล้ว ด้วยความเมตตาที่หลวงปู่มีต่อลูกศิษย์ หลวงปู่จึงเป็นที่รักและศรัทธายิ่งของลูกศิษย์ทุกคนทั้งใกล้และไกล
‘>