จบ ป.4 แต่สามารถทำข้าวเม่าส่งขายต่างประเทศได้ ไม่ใช่เรื่องง่ายที่ใครๆจะทำได้แต่ป้าบัวไข สุวงค์ ชาวบ้านห้วยไม้ซอด ต.ปากคาด อ.ปากคาด จ.บึงกาฬ ทำเงินเข้าหมู่บ้าน ปีละนับสิบล้าน
“เมื่อก่อนทำนาอย่างเดียว เสร็จงานนา คนส่วนใหญ่ในหมู่บ้านจะมุ่งหน้าไปหางานทำกรุงเทพฯ หลังมีโครงการส่งเสริมให้ปลูกสวนยางพารา จึงกลับมาปรับพื้นที่ส่วนหนึ่งไปปลูกยาง เหลือที่ทำนาพอให้มีข้าวกิน แต่เมื่อราคายางเริ่มถูก จึงคิดทำข้าวเม่า เอาไปขายตามงานเทศกาล งานประเพณีท้องถิ่นในจังหวัด หายเงินชดเชยจากยาง”
ข้าวเม่าที่ทำ ป้าบัวไขใช้ข้าวเหนียว กข 6 อายุปลูก 145 วัน ซึ่งข้าวอยู่ในช่วงน้ำนม นำมาทำข้าวเม่า เมล็ดจะนุ่มอร่อย กลิ่นหอม ข้าวเปลือก 10 กก. (ราคา 100 บาท) ทำข้าวเม่าได้ 7.5 กก.ขายได้เงิน 412 บาท และยังขายเป็นรำข้าว-ปลายข้าว ได้อีก 34 บาท เพื่อนบ้านเห็นกำไรดี จึงเริ่มหันมาทำข้าวเม่า
ขายแข่งกัน บางรายขายได้ บางรายขายไม่ได้ ถึงขนาดต้องใช้วิธีลดราคา ขายตัดหน้า หากปล่อยให้เป็นเช่นนี้ ไม่นานอาชีพทำข้าวเม่าหยุดมีอันจอดไม่ต้องแจว
วิธีแก้ปัญหาเพื่อให้เกิดความมั่นคงที่ดีสุด…รวมกลุ่ม
วิธีนี้ไม่เพียงช่วยแก้ปัญหาดังกล่าวได้ ป้าบัวไข บอกว่า ยังช่วยให้ชาวบ้านที่เป็นสมาชิก มีแหล่งขายข้าว เปลือกที่แน่นอน แทนที่จะขายให้โรงสี พ่อค้าคนกลาง เปลี่ยนเอาข้าวมาส่งขายให้กับกลุ่ม ไม่ต้องเสียอารมณ์ ถูกกดราคา หักค่าความชื้น สิ่งเจือปน
สมาชิกยังมีงานทำ…ใครพูดเก่ง ให้ออกงาน ขายข้าวเม่าตามบูธ…คนไหนพูดน้อยให้ช่วยงานที่กลุ่ม แล้วแต่ความสมัครใจของแต่ละคน
เมื่อข้าวเม่าแม่บัวไขเริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้นเพื่อให้การผลิตได้มาตรฐาน ผู้บริโภคยอมรับ จึงคิดขอตรารับรอง อย. กับกระทรวงสาธารณสุข แต่ทำไม่ได้ เพราะข้าวเม่าเป็นอาหารพร้อมกิน เก็บไว้ได้ 2-7 วันแค่นั้น
จึงคิดหาวิธีแปรรูปเพื่อให้เก็บได้นาน ทางกรมพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงพาณิชย์ มาช่วยอบรม แนะนำปรับกระบวนการผลิต การแปรรูปทำข้าวเม่ากระยาสารท, ข้าวเม่าคลุกหวานสูตรโบราณ, ข้าวเม่าสมุนไพรเพื่อสุขภาพ, ข้าวเม่าอบแห้ง, ข้าวเม่าช็อกโกแลตและข้าวเม่านมสด
เป็นข้าวเม่ารายแรกที่นำไปออกร้านขายตามงานต่างๆ โดยมีตรา อย.รับรอง
ปี 2557 ทางจังหวัดคัดเลือกข้าวเม่าแม่บัวไขออกร้านงานมหกรรมอาหารโลกที่ประเทศเวียดนาม…เป็นจุดเริ่มต้น หลังตัวแทนจากเวียดนาม และสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ชิม ข้าวเม่าเกิดติดใจในความนุ่มหอมอร่อย เจรจาขอสั่งซื้อเดือนละ 1,500 กก. ในราคา กก.ละ 330 บาท
เฉพาะปีที่แล้วขายไปได้เงินแค่ 13 ล้านบาท เท่านั้นเอง.
เพ็ญพิชญา เตียว
https://www.thairath.co.th/content/600507’>