เจาะคดีกัญชาข้ามชาติมโหฬาร1.5ตัน-ริมโขง! ขึ้นฝั่งบึงกาฬส่งภาคใต้

สดจากสนามข่าว  นิธิศักดิ์ เศรษฐแสงศรี

เรื่อง-ภาพ 

กัญชาถือเป็นยาเสพติดอีกหนึ่ง ชนิด ที่ถูกลักลอบลำเลียงเข้ามาในประเทศ ก่อนกระจายออกไปสู่แหล่งท่องเที่ยวตามจังหวัดใหญ่ๆ ที่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติ บางส่วนถูกผ่องถ่ายส่งออกไปสู่ภาคใต้ปลายด้ามขวานข้ามไปประเทศเพื่อนบ้าน
ที่ผ่านมาตามสถิติการจับกุม มักพบว่ากัญชาแห้งถูกส่งข้ามแดนผ่านเข้า มาทางภาคอีสาน โดยเฉพาะจังหวัดที่อยู่ติดริมแม่น้ำโขง ที่ถือเป็นพรมแดนกั้นระหว่างเขตประเทศไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน ทั้ง นครพนม มุกดาหาร อำนาจเจริญ บึงกาฬ หนองคาย ที่ขบวนการค้ายาเสพติดใช้เป็นสถานที่รับส่งยาเสพติดก่อนขนเข้าในประเทศ

 ล่าสุดตำรวจตระเวนชายแดนที่ 244 บึงกาฬ ร่วมกับเจ้าหน้าอีกหลายฝ่าย บุกยึดกัญชาครั้งประวัติศาสตร์ของจังหวัดบึงกาฬ ได้เกือบ 1.5 ตัน มูลค่ากว่า 25 ล้านบาท ชนิดที่ว่านำของกลางมากองสูงเกือบท่วมหัว
การยึดกัญญาครั้งมโหฬารนี้ถูกเปิดเผยขึ้น เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 5 เม.ย. ที่กองร้อย ตชด.244 อ.เมือง จ.บึงกาฬ นายพงษ์ศักดิ์ ปรีชาวิทย์ ผวจ.บึงกาฬพล.ต.ต.สุภลักษณ์ วรรณฤกษ์งาม ผบก.ภ.จว.บึงกาฬ พ.ต.อ.สมบัติ บุญโสภาผกก.ตชด.24 นายกรกต ธำรงวงศ์สวัสดิ์ ปลัดจังหวัด พ.อ.วิชัย มารศรี รอง ผอ.กอ.รมน. พ.ต.ท.อนุรักษ์ เสนามาตย์ ผบ.ร้อย ตชด.244 ร่วมแถลงตรวจยึดกัญชาแห้ง 41 กระสอบ แยกเป็น 1,106 ถุง น้ำหนักรวม 1,280 กิโลกรัม มูลค่าประมาณ 25.6 ล้านบาท

 “การจับกุมครั้งนี้ พ.ต.อ.สมบัติ บุญโสภา ผกก.ตชด.24 สืบทราบว่าแก๊งค้ายาเสพติดจะลักลอบ ขนกัญชาล็อตใหญ่กว่า 2,000 กิโลกรัม ข้ามแม่ น้ำโขงมาส่งมอบให้เครือข่ายในเขตพื้นที่ต.หอคำ อ.เมืองบึงกาฬ จึงสั่งการให้ พ.ต.ท.อนุรักษ์ เสนามาตย์ ผบ.ร้อย ตชด.244 สนธิกำลังร่วมกับตำรวจน้ำ บึงกาฬ หน่วย นรข. เขตหนองคาย ทหาร กกล.รส. ตำรวจ กก.3 บก.ปทส. ฝ่ายปกครอง และเจ้าหน้าที่ ปปส. วางแผนจับกุม จนกระทั่งจากการสืบสวนหาข่าวจนได้เป้าหมายที่ชัดเจนคือ บริเวณเขตรอยต่อระหว่าง อ.ปากคาด จ.บึงกาฬ กับ อ.รัตนวาปี จ.หนองคาย ที่กลุ่มค้ายาเสพติดใช้เป็นจุดส่งมอบกัญชาล็อตนี้” ผู้ว่าฯ ลำดับเหตุการณ์

นายพงษ์ศักดิ์เผยต่อว่า เมื่อเวลา 05.00 น. เช้าวันนี้ เจ้าหน้าที่จึงนำกำลังเฝ้าสกัดจับกุม ก่อนพบเรือหาปลา 3 ลำติดเครื่องยนต์ ขับออกมาจากฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน วิ่งตัดข้ามแม่น้ำโขงเข้ามาจอดริมตลิ่งบ้านต้อนใหญ่ ต.บ้านต้อน อ.รัตนวาปี จ.หนองคาย

ก่อนมีชายฉกรรจ์ประมาณ 20 คน แบกกระสอบสีดำขึ้นจากเรือขนมาใส่รถกระบะอีซูซุ รุ่นดีแมคซ์ สีขาว ทะเบียน ฒฌ 6166 กรุงเทพมหานคร ที่ต่อโครงเหล็กทั้ง 2 ข้างจอดรออยู่ โดยมีชายฉกรรจ์อีกประมาณ 10 คนรอรับกระสอบอยู่ข้างรถ

เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าจับกุมพร้อมกับยิงปืนขึ้นฟ้ากว่า 20 นัด ป้องกันกลุ่มชายฉกรรจ์ต่อสู้ขัดขืน ซึ่งทั้งหมดพากันวิ่งหลบหนีหายไปกับความมืดพร้อมกับเรือ 2 ลำ วิ่งออกจากฝั่งข้ามแม่น้ำโขงกลับไปแบบไม่เหลียวหลัง จากการตรวจสอบภายในกระสอบสีดำ พบห่อบรรจุกัญชาแห้งถึง 41 กระสอบ ถือว่าเป็นการตรวจยึดกัญชาได้มากเป็นประวัติศาสตร์ของจังหวัดบึงกาฬ

กัญชาล็อตนี้เป็นของใหม่ ทำเป็นริ้วๆ หรือแท่งเล็กๆ ถักสานด้วยด้ายสีแดง บรรจุถุง 2 ชั้น ถุงละ 18 แท่ง ซีลด้วยสุญญากาศมีสารกันความชื้นอยู่ด้านหน้าและหลัง คาดว่าจะนำไปพักที่ภาคกลางแล้วจึงแพ็กส่งขายต่อยังต่างประเทศ

 ฤทธิ์ของกัญชาหากสูบแล้วจะส่งผลต่อระบบความจำ การรับรู้เรื่องระยะทางและเวลาผิดปกติ การขับขี่ยานพาหนะจะมีประสิทธิภาพลดลง นอกจากนั้นยังอาจส่งผลให้เกิดอาการประสาทหลอนและวิกลจริตได้ ดังนั้นจึงต้องขจัดให้หมดสิ้นไปจากประเทศ แต่การปราบปรามของเจ้าหน้าที่รัฐเพียงอย่างเดียว ไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ทั้งหมด 

การสร้างภูมิคุ้มกัน ด้วยการให้ความรู้แก่เยาวชน ให้ตระหนักถึงพิษภัยร้าย รวมทั้งปลูกฝังสร้างค่านิยมให้ต่อต้าน ยาเสพติดชนิดนี้และชนิดอื่นๆ ถือเป็น อีกหนึ่งวิธีที่สามารถใช้ป้องกันยับยั้งไม่ให้เกิดการแพร่ระบายในหมู่วัยรุ่นได้

 เพราะหากไม่ช่วยกันคนละไม้คนละมือ สังคมบ้านเราคงต้องอยู่อย่างหวาดระแวง ว่าเมื่อไหร่จะกลายเป็นเหยื่อ ถูกจี้ปล้นของกลุ่มคนเสพยาเสพติดได้สักวัน

ที่มา http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=1460374737

‘>