ตร.จ.นครพนม เร่งแกะรอย แก๊งฆ่าโหดหนุ่มโยนน้ำโขง ชี้โทรศัพท์เป็นพยานมัดตัวได้

ตร.เร่งแกะรอย แก๊งฆ่าโหดหนุ่มโยนน้ำโขง ชี้โทรศัพท์เป็นพยานมัดตัวได้

เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม ความคืบหน้ากรณีพบศพนายกิ่งไผ่ ขัตติยนนท์ อายุ 35 ปี ชาวบ้านเล้าข้าว ต.หินกอง อ.สุวรรณ จ.ร้อยเอ็ด ที่ปัจจุบันมาอยู่กินกับภรรยา ในพื้นที่ อ.ศรีวิไล จ.บึงกาฬ สภาพศพลอยอืด ถูกฆาตกรรมโหด มัดมือมัดเท้า ทำร้ายร่างกายทุบศีรษะ ก่อนโยนทิ้งน้ำโขง คาดว่าไหลมาตามน้ำโขงจากพื้นที่ จ.บึงกาฬ มาติดตลิ่งในพื้นที่ บ.โคกไก่เซา หมู่ 6 ต.ท่าค้อ อ.เมือง จ.นครพนม ช่วงเย็นวันที่ 22 พฤษภาคมที่ผ่านมา ในเขต บ.โคกไก่เซา หมู่ 6 ต.ท่าค้อ อ.เมือง จ.นครพนม

ภายหลัง พ.ต.อ.ณัฏฐวิชฌ์ ราชแก้ว ผกก.สภ.เมืองนครพนม ได้มอบหมายให้ ร.ต.อ. (หญิง) จุฬารัตน์ อาจภิรมย์ รอง สว. (สอบสวน) สภ.เมืองนครพนม พร้อมเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่เก็บหลักฐานชันสูตรศพ ก่อนนำศพส่งชันสูตรที่สถาบันนิติเวช จ.ขอนแก่น โดยหลังพบศพได้มีนางบุญหลาย วงศ์อามาตย์ อายุ 65 ปี แม่ผู้ตายพร้อมญาติชาว จ.ร้อยเอ็ด เดินทางมายืนยันตัวตนผู้ตาย จากหลักฐานลายสัก รวมถึงรูปพรรณผู้ตาย ทั้งนี้ จากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทราบว่าก่อนเกิดเหตุทางภรรยาผู้ตายให้การว่า เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคมที่ผ่านมา ผู้ตายได้บอกกับภรรยาว่าจะข้ามไปหาเพื่อนเพื่อติดต่อธุระกับเพื่อนชาวลาว แต่ไม่ได้เอาโทรศัพท์มือถือติดตัวไปด้วย

จนกระทั่งเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม มีชายลึกลับโทรศัพท์ติดต่อเข้ามายังมือถือผู้ตาย พร้อมเรียกเงินอ้างเป็นค่าไถ่ จำนวนนับล้านบาท แต่ทางภรรยาไม่มีให้ก่อนเงียบหายไป ในที่สุดพบศพผู้ตายถูกฆาตกรรมฆ่าโหดทิ้งน้ำโขง ลอยอืดมาติดริมตลิ่งในพื้นที่ จ.นครพนม เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคมที่ผ่านมา

นอกจากนี้ ยังพบประวัติผู้ตายเคยเกี่ยวข้องกับยาเสพติด เคยต้องคดีมาหลายครั้ง เพิ่งพ้นโทษล่าสุดเมื่อปี 2564 เป็นหลักฐานสำคัญส่วนหนึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้รวบรวมหลักฐานเร่งหาคนผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมาย เบื้องต้นมุ่งปมขัดแย้งธุรกิจมืดผิดกฎหมาย เกี่ยวข้องกับขบวนการค้ายาเสพติดเป็นหลัก

ล่าสุด เมื่อช่วงบ่ายเมื่อวานที่ผ่านมา นางบุญหลาย แม่ผู้ตายพร้อมญาติ ได้นิมนต์พระสงฆ์ และปราชญ์ชาวบ้าน ไปประกอบพิธีความเชื่อตามประเพณีอีสาน เพื่อเชิญดวงวิญญาณผู้ตายกลับบ้าน บริเวณจุดเกิดเหตุริมแม่น้ำโขง บ.โคกไก่เซา หมู่ 6 ต.ท่าค้อ อ.เมือง จ.นครพนม โดยมีการทำพิธีพราหมณ์แต่งขันธ์ห้าจุดธูป 36 ดอก นำกระบุงภายในมีไข่ต้ม 1 ฟอง ดอกพุทธรักษา 1 คู่ ข้าวเหนียว 1 ปั้นใหญ่ มาช้อนขวัญและวิญญาณผู้ตายจุดที่พบศพ เชื่อว่าเป็นการเปิดทางให้วิญญาณกลับสู่ภูมิลำเนา ซึ่งพราหมณ์ได้เขย่ากระบุงวน 3 รอบ ก่อนจะนำสิ่งของดังกล่าวเทใส่ผ้าขาวม้าที่เตรียมไว้ มัดยื่นให้นางบุญหลาย แม่ผู้ตาย ได้ถืออุ้มไว้ ขณะทำพิธีพระได้สวดคาถากำกับ ตามความเชื่อ โดยแม่ผู้ตายได้หลั่งน้ำตา พร้อมกล่าวคำเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ระบุว่ารับไม่ได้ เพราะถือเป็นการกระทำที่โหดเกินมนุษย์ ไม่ว่าลูกชายจะทำผิดอะไร แต่ไม่คาดคิดว่าจะมีการกระทำกับลูกชายโหดร้ายขนาดนี้ อีกทั้งยังสาปแช่งให้คนลงมือได้รับกรรมกับการกระทำที่ก่อไว้อย่างโหดเหี้ยม ซึ่งจะเดินทางไปรับศพลูกชายหลังสถาบันนิติเวช จ.ขอนแก่น ผ่าชันสูตร เป็นที่เรียบร้อยในวันที่ 25 พฤษภาคม

ด้าน พ.ต.อ.ณัฏฐวิชฌ์ ราชแก้ว ผกก.สภ.เมืองนครพนม เปิดเผยว่า สำหรับแนวทางการสอบสวน ได้มอบหมายให้พนักงานสอบสวน เจ้าของคดี ประสานงานร่วมกับตำรวจพื้นที่ สภ.ศรีวิไล จ.บึงกาฬ ท้องที่เกิดเหตุ ที่มีการแจ้งผู้ตายสูญหาย รวมถึงประสานตำรวจชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 4 ลงพื้นที่สอบสวน รวบรวมหลักฐาน ทั้งพยานบุคคล พยานแวดล้อม สำคัญที่สุดคือจะมีการหาเบาะแสจากหมายเลขโทรศัพท์มือถือ เชื่อว่าเป็นคนร้ายที่โทรเข้ามาเรียกค่าไถ่ตัวผู้ตาย ถือเป็นหลักฐานสำคัญที่จะมัดตัวผู้กระทำผิดเพื่อเสนอศาลออกหมายจับ เบื้องต้นมุ่งปมขัดแย้งธุรกิจผิดกฎหมาย และเชื่อว่าเป็นการกระทำของกลุ่มขบวนการกระทำผิดกฎหมายข้ามชาติ ทางฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน เพราะก่อนเกิดเหตุมีพยานหลักฐานยืนยันผู้ตายข้ามฝั่งไปยังประเทศเพื่อนบ้าน สปป.ลาว โดยจะได้ประสานเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายเร่งคลี่คลายคดี จับตัวคนร้ายมาดำเนินคดีโดยเร็วที่สุด