บึงกาฬ แค้นพ่อเลี้ยงดุด่าดักยิงขณะนั่งอึตกโถส้วมมีดฟันซ้ำดับสยอง

บึงกาฬ แค้นพ่อเลี้ยงดุด่าดักยิงขณะนั่งอึตกโถส้วมมีดฟันซ้ำดับสยอง

พ่อเลี้ยงเอาแต่เมาดุด่าว่ากล่าวลูกเลี้ยง ทำอะไรก็ไม่ถูกใจ สบโอกาสขณะพ่อเลี้ยงเข้าห้องน้ำที่ใช้ถุงปุ๋ยทำเป็นฝากั้นห้องนั่งปลดทุกข์หนักก่อนสว่าง ย่องเอาปืนพกสั้นดัดแปลงจากปืนบีบีกันบรรจุกระสุนขนาด .380 ใส่แมกกาซีน ยิงไป 5 นัด เข้ากลางหลังตกจากโถส้วมกลิ้งออกข้างนอกส้วม ยังหายใจรวยรินจึงใช้มีดหลายเล่มฟันและแทงซ้ำไปหลายทีทั้งใบหน้าและลำตัว ก่อนจะทิ้งมีดหลบหนีไปซ่อนในป่า ถูกตามจับได้รับสารภาพโกรธแค้นในใจที่พ่อเลี้ยงมักดุด่ามาแต่เด็กๆ จนฝังใจ

เมื่อเวลา 06.30 นวันนี้ 11 ต.ค.ร.ต.อ.ณัฐดน สุวรรณโค รองสว.(สอบสวน)สภ.โสกก่าม รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ 191 ว่ามีเหตุคนเสียชีวิตภายในบ้านไม่มีเลขที่ติดสวนสวนยางพารา หมู่ที่15 บ้านโคกแสงทอง ต.บ้านต้อง อ.เซกา จ.บึงกาฬ จึงรายงานให้ พ.ต.ท.ธนาตรี ศรีลุนช่าง สว.สภ.โสกก่าม และผู้บังคับบัญชาตามลำดับขั้นทราบ จึงได้ประสานแพทย์เวร รพ.เซกา หน่วยกู้ภัยสว่างศรีวิไลฯจุดโสกก่าม และบึงโขงหลง ออกตรวจสอบเหตุ เมื่อไปถึงยังที่เกิดเหตุเป็นลักษณะบ้านปูนชั้นเดียวไม่มีเลขที่ ตั้งอยู่ในสวนยางพารา ห่างจากหมู่บ้านประมาณ 3 กิโลเมตร พบผู้ตายทราบชื่อ นายใบคำ เสียงล้ำ อายุ 68 ปี บ้านเลขที่ 96 หมู่ 15 บ้านโคกแสงทองนอนเสียชีวิตอยู่ข้างห้องน้ำที่ใช้ถุงปุ๋ยมาทำเป็นฝากั้นด้านข้าง ลักษณะนอนหงายจมกองเลือดในสภาพศพสวมเสื้อแขนสั้นสีชมพู กางเกงขาสั้นสีดำ
จึงร่วมกับตำรวจพิสูจน์หลักฐานบึงกาฬ ชันสูตรพลิกศพ พบว่าตามร่างกายมีบาดแผลหลายแห่ง มีรอยกระสุนปืนไม่ทราบขนาด อยู่กลางหลัง 2 นัด ขาด้านซ้าย 3 นัด ตามใบหน้ามีแผลฉกรรจ์คล้ายถูกฟันด้วยของมีคม และตรงที่คอก็มีแผลฉกรรจ์ลึกเกือบขาดเช่นกัน ที่เกิดมีคลาดเหล็กตกอยู่ และมีดปลายแหลม 1 เล่มวางอยู่ข้างผู้ตายจึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ซึ่งสันนิษฐานว่าผู้ลงมือก่อเหตุฆาตกรรมในครั้งนี้น่าจะเป็นการกระทำของ นายภักดี ธรรมรัตน์ อายุ 30 ปี ซึ่งเป็นลูกเลี้ยงถูกผู้ตายดุด่าเป็นประจำและนอนพักอยู่ด้วยกัน หลังเกิดเหตุได้หนีหายออกจากบ้านไป

หลังรับรายงาน พล.ต.ต.ตรีวิทย์ ศรีประภา ผบก.ภ.จว.บึงกาฬ พร้อมด้วย พ.ต.อ.อารัก มะสาธานัง รอง ผบก. ได้เดินทางไปดูที่เกิดเหตุ ได้สั่งการให้ออกตามล่าตัวลูกเลี้ยงโหดรายนี้มาให้ได้โดยเร็ว เพราะเป็นเหตุคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญ ต่อมาเวลาประมาณ 07.30 นของวันเดียวกันก็สามารถจับกุมนายภักดีได้พร้อมอาวุธที่ใช้ก่อเหตุ ขณะไปหลบซ่อนอยู่ในป่าห่างจากที่เกิดเหตุ 1 กิโลเมตร ได้ให้การรับสารภาพถึงสาเหตุลงมือฆาตกรรมโหดพ่อเลี้ยง เนื่องจากผู้ตายขี้บ่นดุด่ามาตั้งแต่เด็กอยู่เป็นประจำทำให้นายภักดีเกิดความโกรธแค้นฝังใจ จึงหาซื้ออาวุธปืนไทยประดิษฐ์ขนาด .38 บรรจุทีละ 1 นัดมาเตรียมไว้ ส่วนอาวุธปืนบีบีกันดัดแปลงเป็นของพ่อเลี้ยงที่หาซื้อมาเอง ซึ่งตนได้ย่องเข้าไปหยิบเอาในที่นอนก่อนมาลงมือยิง จึงแจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนาและมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ควบคุมตัวสอบสวนดำเนินคดี
ด้านนางสาคร เสียงล้ำ อายุ 55 ปี ภรรยาผู้ตายให้การว่า ตอนเกิดเหตุไม่มีใครรู้เรื่องอะไรเลย เพราะตนปวดหัวใจได้กินยาแก้ไข้เข้านอนแต่หัวค่ำ และไม่ได้ยินเสียงทะเลาะกันหรือเสียงปืนดังแต่อย่างใด เช้ามามีน้องสาววิ่งมาบอกว่าลูกชายได้ฟันพ่อตายแล้ว ก็ตกใจร้องโวยวายๆ รีบบอกน้องสาวไปแจ้งผู้ใหญ่บ้านและแจ้งตำรวจ ที่ผ่านมาเวลาเมาก็ได้ยินเสียงบ่นให้ลูกชายคนนี้ตลอด ก็ได้แต่เตือนบอกว่าให้พ่อค่อยพูดค่อยจากับลูกหน่อย ไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องร้ายขึ้นแบบนี้.

นายสมเพชร กุดอำคา อายุ 33 ปี พี่ชายผู้ก่อเหตุให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า ก่อนเกิดเหตุกำลังนอนหลับ แต่สะดุ้งตื่นตอนมีเสียงปืนดังหลายนัด จนตกใจลุกขึ้นมาดูเหตุกาณ์ เห็นน้องชายผู้ก่อเหตุกำลังวิ่งหนีออกจากบ้านไป จึงได้วิ่งไล่ตามพร้อมร้องบอกว่าไม่ต้องหนี และรู้แล้วว่าน้องชายฆ่าพ่อเลี้ยง

นางสาคร เสียงล้ำ อายุ 55 ปี ภรรยาผู้ตายและแม่ของผู้ก่อเหตุ กล่าวว่านิสัยลูกชายเป็นคนขี่ใจร้อน เงียบขรึม ดื่มเหล้ามีเรื่องทะเลาะกันกับผู้ตายบ่อย ผู้ตายเป็นคนขี่บ่นเมาไม่เมาก็บ่นตลอด มักเอาอาวุธปืนมาอวดอ้างคนอื่นอยู่เรื่อย ตนเองเป็นแม่ก็สั่งสอนลูกเป็นประจำ ให้ฟังเวลาพ่อแม่ดุด่าอย่าเถียง อย่าพูด ให้ฟังคำผู้ใหญ่ แต่ว่าการที่ไม่ได้พูดมันก็เป็นการเก็บกดของเขาแบบหนึ่ง ก่อนเกิดเหตุตนเป็นไข้กินยานอนแต่หัวค่ำ ไม่ได้ยินเสียงอะไรเลย มีน้องสาวมาร้องเรียกว่าลูกชายคือนายภักดีได้ฆ่าพี่เขยตายแล้ว จึงตกใจบอกน้องสาวให้ไปแจ้งผู้ใหญ่บ้านและแจ้งตำรวจ

นายภักดี ตอนเกิดเหตุไม่เสียใจเลย แต่เกิดเหตุแล้วรู้สึกเสียใจภายหลัง ที่ตนเองทำลงไป ด้วยความโมโห และเก็บกดที่พ่อเลี้ยงมักดุด่ามาตั้งแต่เด็ก 9 ขวบจนอายุ 30 ปี โดยไม่มีเหตุผล จนต้องเก็บกดมาระบายแค้นเอาวันนี้เมื่อสบโอกาส ส่วนญาติๆ ของทั้งผู้ตายและผู้ก่อเหตุ ตกลงกันหลังนำศพกลับมาจากการผ่าพิสูจน์ที่ สถาบันนิติเวช รพ.ศรีนครินทร์ขอนแก่นแล้วก็จะนำไปประกอบพิธีทางศาสนาที่ป่าช้าในหมู่บ้านทันที่.

นิธิศักดิ์ เศรษฐแสงศรี//บึงกาฬ 0933199399