แฉ“ตัวเป้ง”แก๊งค้ายาเสพติดสั่งยาบ้า 4 ล้านกว่าเม็ด 15 กระสอบ ทางโทรศัพท์จากลาวเข้าจังหวัดบึงกาฬ ถูกจับกุมได้คราวนี้เพียง 4 กระสอบ 1.6 ล้านเม็ด ส่วนที่เหลือหนีรอดไปได้พร้อมรถอีซูซุมิวเซเวน 11 กระสอบ รับสารภาพทำมาหลายครั้งแล้ว ตำรวจเตรียมยึดทรัพย์
ทั้งนี้ สืบเนื่องจาก พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.กองปราบฯ สืบทราบว่าจะมีการลักลอบนำยาเสพติดข้ามน้ำโขงมาจากประเทศ สปป.ลาว เข้าส่งให้กับเครือข่ายผู้ค้าชาวไทยบริเวณถนนทางเข้าสวนยางพารา ที่แยกออกจากถนนหมายเลข 212 ช่วงบึงกาฬ-บุ่งคล้า ใกล้สะพานลำห้วยโนนสา พื้นที่บ้านท่าอินทร์แปลง หมู่ที่ 5 ต.โคกก่อง อ.เมืองบึงกาฬ จึงได้สั่งการให้ พ.ต.อ.วิวัฒน์ จิตโสภากุล ผกก.3 บก.ป.พ.ต.ท.สิทธิพร มีอาษา สว.กก.3 บก.ป.ด.ต.อัครรัฐ อรรคบาล , ด.ต.สนทยา บัวถนอม ด.ต.ชัชชัย ช่างสอนสนธิกำลังกับ พ.ต.ท.อดุลย์ ฉิมทับ รอง ผกก.สืบสวน ภ.จว.พ.ต.ท.เทิดศักดิ์ โคตรศรีวงษ์ ผบ.ร้อย ตชด.244 ร.ท.ไชยยา เนียมแสง ผค.เรือ รตล.ร.อ.ทิวากร แสงลาภ ผบ.ร้อย.สกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติดที่ 2 นายไวคุณ ไชยเลิศ ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง อ.ศรีวิไลฯ ด.ต.สมศักดิ์ สุขวิญญา ด.ต.ธนวรรธ จันอ้วน ผบ.หมู่ ป.ตม.ด.ต.ไพโรจน์ ลับดี ผบ.หมู่ ป.ตำรวจน้ำบึงกาฬ นายปรีชา ดิษย์เมธาโรจน์ ผอ.ส่วนควบคุมทางศุลกากรบึงกาฬ วางแผนจับกุม
กระทั่งพบรถยนต์ยี่ห้ออีซูซุ รุ่นมิวเซเวน รุ่นใหม่ สีขาว ต้องสงสัยวิ่งเข้ามาจอดที่บริเวณถนนข้างทาง บนถนนหลวงหมายเลข 212 พื้นที่บ้านท่าอินทร์แปลง ต.โคกก่อง อ.เมืองบึงกาฬ ใกล้กับสะพานลำห้วยโนนสา ใกล้จุดเจ้าหน้าที่ดำซุ่ม
จากนั้นมีชาย 2 คนยกกระสอบบางอย่างขึ้นรถ จึงแสดงตัวขอตรวจค้น คนขับจึงเร่งเครื่องขับหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว เมื่อเข้าตรวจสอบบริเวณดังกล่าว พบกระสอบพลาสติกสีดำพันรอบด้วยเทปกาวใสด้านนอก จำนวน 4 กระสอบ เปิดดูพบว่าเป็นยาบ้าจำนวนมาก และกำลังส่วนหนึ่งได้ขับรถไล่ติดตามไป กระทั่งไปพบรถคันดังกล่าวจอดอยู่ข้างถนนสาย 2094 เซกา-อากาศอำนวย พื้นที่บ้านโพนก่อ ต.ท่าก้อน อ.อากาศอำนวย จ.สกลนคร และพบรถยนต์เก๋งยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซิตี้ สีขาว ทะเบียนสกลนคร จอดอยู่ใกล้กัน เมื่อทั้ง 2 คัน เห็นรถเจ้าหน้าที่ รถยนต์ยี่ห้ออีซูซุ รุ่นมิวเซเวน ได้ขับหลบหนีต่อไปอีก ส่วนคนขับรถยนต์เก๋งยี่ห้อฮอนด้า ได้วิ่งหลบหนีไปในความมืด เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบภายในรถเก๋งพบโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่องวางอยู่ในรถ จึงตรวจสอบผู้ครอบครองรถยนต์ นายอนุวัฒน์ (สงวนนามสกุล) อายุ 31 ปี อยู่บ้านต.กุรุคุ อ.เมืองนครพนม จ.นครพนม และสืบจากการโทรเข้า-โทรออก พบว่ามีชื่อ “อ้ายลาย”โทรเข้ามาบ่อยครั้ง จึงขยายผล และตามไปจับกุมนายปิยะพงษ์ อายุ 34 ปี ซึ่งเป็นตัวการใหญ่หรือตัวเป้งโทรสั่งยาเสพติดจาก สปป.ลาว เข้ามาขายฝั่งไทยคนหนึ่ง ภูมิลำเนาตั้งอยู่ที่บ้านต.บ้านต้อน อ.รัตนวาปี จ.หนองคาย ซึ่งตั้งอยู่ริมห้วยคาดเขตแบ่งจังหวัดหนองคายและบึงกาฬ
นายปิยะพงษ์ รับสารภาพว่า ยาบ้าดังกล่าวตนเองเป็นคนโทรสั่งซื้อจากชาวลาวและได้ว่าจ้างให้เครือข่ายไปรับยาบ้าจากชาวลาว จำนวน 15 กระสอบ และนำไปส่งต่อให้กลุ่มเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติดคนไทย (ไม่ทราบชื่อ) ซึ่งเป็นกลุ่มเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติดของชาวลาว ต่ออีกทอดหนึ่งซึ่งทำมาหลายครั้งแล้ว และเมื่อเสร็จส่งยาเสพติดเสร็จแล้ว ชาวลาวจะโอนเงินเข้าบัญชีให้ครั้งละ 30,000 บาท และรับว่าได้เสพยาบ้าจริง จนท.จึงคุมตัวมาดำเนินคดี โดยกล่าวหาว่า “ก่อให้ผู้อื่นโดยการจ้างวานใช้ให้กระทำความผิดฐานจำหน่ายและมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยการมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย อันเป็นการก่อให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไป และเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยผิดกฎหมาย” นำตัวส่ง สภ.เมืองบึงกาฬ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
พล.ต.ต.ตรีวิทย์ ศรีประภา ผบก.ภ.จว.บึงกาฬ กล่าวว่า สำหรับขบวนการค้ายาเสพติดที่มีส่วนเกี่ยวข้อง คือคนขับรถยนต์เก๋งยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซิตี้ สีขาว ทะเบียนสกลนคร จะได้ออกหมายจับ และสอบสวนผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องโดยเฉพาะรถยนต์ยี่ห้ออีซูซุ รุ่นมิวเซเวน รุ่นใหม่ สีขาว ที่หลบหนีไปได้ มาดำเนินคดี หากสาวถึงใครก็ดำเนินคดีหมด พร้อมใช้มาตราการยึดทรัพย์หากได้มาโดยผิดกฎหมายทุกราย ส่วนยาบ้าที่หลุดไปได้จำนวน 11 กระสอบ พร้อมกับรถยนต์ยี่ห้ออีซูซุ รุ่นมิวเซเวน และคาดว่ายาบ้าที่สั่งเข้ามาลอตนี้ทั้งหมด 15 กระสอบ น่าจะเป็น จำนวน 4.4 ล้านเม็ด ก็จะได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งสกัดจับต่อไป.
/ เกรียงไกร พรมจันทร์//บึงกาฬ รายงาน..