จังหวัดบึงกาฬ เชิญพวงมาลาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัววางหน้าหีบศพจ่าทหารเรือ อย่างสมพระเกียรติ

วันนี้ 29 ธันวาคม 65 เวลา 17.56 น. ญาติเคลื่อนย้ายร่าง จ่าเอก บุญเลิศ ทองทิพย์ 1 ใน ผู้เสียชีวิตจากเหตุเรือหลวงสุโขทัยอับปาง กลับมาประกอบพิธีทางศาสนา ที่บ้านเกิด หลังมีพิธีพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ ในเวลา 17.00 น. ของวานนี้ ณ ฌาปนสถานกองทัพเรือสัตหีบ โดยมี ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารเรือ ตลอดจนกำลังพลกองทัพเรือในพื้นที่สัตหีบ ร่วมในพิธีพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ และได้รับพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม จากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ให้ศพอยู่ในพระบรมราชานุเคราะห์ โดยตั้งศพที่ศาลาการเปรียญ วัดพูลสุขวราราม บ้านศรีอำนวยพร ต.ท่ากกแดง อ.เซกา จ.บึงกาฬ

จากนั้นเวลา 18.25 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ นายนฤชา โฆษาศิวิไลซ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ เชิญพวงมาลาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว, สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง, สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี และพระบรมวงศานุวงศ์ ไปวางที่หน้าหีบศพ จ่าเอก บุญเลิศ ทองทิพย์ เพื่อเป็นเกียรติแก่กำลังพลและวงศ์ตระกูล ทั้งนี้ ทรงรับศพผู้ที่เสียชีวิตไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์ โดยตลอดการ ยังความปลื้มปีติแก่ครอบครัว จ่าเอก บุญเลิศ ทองทิพย์ กำลังพลที่เสียชีวิต อย่างหาที่สุดมิได้ ที่ได้รับพระราชทานพระมหากรุณาธิคุณครั้งนี้ ต่างสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างเป็นล้นพ้น

โดยมีนายชนพหล ส่งเสริม รองผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ พล.ต.ยงยุทธ ขันทวี ผู้บัญชาการมลฑลทหารบกที่ 29 เหล่ากาชาดจังหวัดบึงกาฬ หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการทหาร ตำรวจ และประชาชน ร่วมในพิธีอย่างพร้อมเพียง สมพระเกียรติ

สำหรับศพจ่าเอก บุญเลิศ ทองทิพย์ จะมีพิธีสวดพระอภิธรรมศพ ณ วัดพูลสุขวราราม ต.ท่ากกแดง อ.เซกา จ.บึงกาฬ ในวันที่ 29 – 30 ธ.ค. 65 เวลา 19.00 น. และกำหนดพิธีฌาปนกิจศพ ในวันที่ 31 ธ.ค. 65 เวลา 15.00 น.

นายพวง ทองทิพย์ บิดาของจ่าเอกบุญเลิศ ทองทิพย์ กล่าวถึงความภาคภูมิใจที่มีต่อลูกชายว่า มีความภาคภูมิใจต่อลูกชายที่ปฏิบัติงานในหน้าที่ รับใช้ประเทศชาติ และบ้านเมือง การเสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่แบบนี้ก็ถือว่าลูกไปดี พ่อก็รู้สึกภูมิใจกับลูก และถึงแม้ลูกจะเสียชีวิตไปแล้ว แต่ลูกก็ทิ้งคุณงามความดีไว้เบื้องหลัง พ่อแม่ก็รู้สึกภูมิใจที่สุด และเมื่อทราบว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯ พระราชทานพวงมาลาเบื้องหน้าหีบศพ ก็ยิ่งรู้สึกภาคภูมิใจจนพูดไม่ออก ถือว่า มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี และถือว่าไม่ได้ตายฟรี ถือว่าลูกชายสุดยอดมากแล้วพ่อแม่ก็ภูมิใจ