บึงกาฬ นรข.มนุษย์กบปะทะแก๊ง “ยาแลกรถ”ยึดยาบ้า 3.2 ล้านเม็ดรถยนต์ 7 คัน
แก๊งค้ายาบ้าจากประเทศเพื่อนบ้านมาใหม่ใช้ “ยาบ้าแลกรถ”ผบ.นรข.เผยยาขึ้นฝั่งรถลงเรือ แต่ถูกหน่วย นรข.และมนุษย์สกัดไว้ได้ก่อนมียิงปะทะกันของหน่วยคุ้มกันกว่า 1 ชั่วโมง 2 ระลอก รถหนีข้ามไปได้ 1 คัน ยึดยาบ้าบิ๊กลอต 3.2 ล้านเม็ด มูลค่า 160 ล้านบาทพร้อมรถเก๋งของกลาง 1 คัน นอกจากนี้ยึดรถยนต์ที่ใช้แลกยาบ้าอีก 7 คัน ผู้ต้องหาหลบหนีไปได้ เพียงครึ่งเดือน จ.บึงกาฬยึดยาบ้าได้ 10 ล้านเม็ด
เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 19 ก.พ.ที่สถานีหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง อ.เมืองบึงกาฬ จ.บึงกาฬ นายนฤชา โฆษาศิวิไลซ์ ผวจ.บึงกาฬ พล.ร.ต.สมาน ขันธพงษ์ ผบ.นรข.น.อ.จิรัฏฐ์ ผูกทอง ผบ.นรข.เขตหนองคาย พ.อ.จักรพงษ์ โพธิ์นาแค ผบ.บก.ควบคุมที่ 2 กกล.สุรศักดิ์มนตรี (ร.13)พ.ต.อ.จรูญศักดิ์ ลำพุทธา ผกก.สส.ภ.จ.บึงกาฬ พ.ต.อ.เจริญชัย คุณชื่น ผกก.สภ.หอคำ พ.ต.ต.หญิง ชุลีกร ลิมวิเศษศักดิ์ สว.ตม.พ.ต.ต.ประชานาถ แดงเนียม สว.หน.ตำรวจน้ำบึงกาฬ นายนภดล จอมเพชร ปลัดจังหวัดบึงกาฬ นายธีระพล ขุนพานเพิง นายอำเภอเมืองบึงกาฬ นางสาวนุชาภา สังขกร ผอ.ส่วนบริการศุลกากรและนางสาวปัณฑารีย์ เตโช นักวิชาการศุลกากรชำนาญการด่านศุลกากรบึงกาฬ ร่วมกันแถลงตรวจยึดยาบ้า จำนวน 3,200,000 เม็ดมูลค่า 160 ล้านบาท พร้อมรถยนต์เก๋ง 1 คันยี่ห้อโตโยต้ารุ่นยารีสสีขาว ทะเบียน 3ขช 3246 กรุงเทพฯ ที่ริมถนนลูกรัง ซอยโยธาธิการ นค.2045 บ้านคำหมื่น ต.ไคสี อ.เมืองบึงกาฬ อีกรายหน่วย นรข.อีกชุด ยึดรถยนต์เตรียมส่งลงเรือข้ามไปยังประเทศเพื่อนบ้านอีก 7 คัน เหตุเกิดที่บริเวณท่าทรายร้าง (ท่าทรายเสี่ยท๊อป) บ.ท่าอินทร์แปลง ต.โคกก่อง อ.เมืองบึงกาฬ จ.บึงกาฬ
ทั้งนี้จากการสืบทราบของ พล.ร.ต.สมาน ขันธพงษ์ ผบ.นรข.ว่าจะมีการลักลอบขนยาเสพติดเข้าน้ำโขงมาจากประเทศเพื่อนบ้านในพื้นที่ ต.หอคำ และนำรถยนต์ข้าไปยังประเทศเพื่อนบ้าน บริเวณท่าทรายเก่า พื้นที่บ้านโนนอินแปลง ต.โคกก่อง อ.เมืองบึงกาฬ จึงได้สั่งการให้ น.อ.จิรัฏฐ์ ผูกทอง ผบ.นรข.เขตหนองคาย แลน.ท.ศิริพงษ์ นพไธสง หน.สน.เรือบึงกาฬ ,ว่าที่ ร.อ.ชนะภัย พันธ์น้อย หน.หมวดทำลายใต้น้ำจู่โจม ร.อ.อุดม บัวสุข ร.ท.ไซยา เนียมแสง ผค.เรือ รตล.สน.เรือบึงกาฬ และร.ต.มนัส ไชยสงค์ ร.ต.สำราญ ซาเบาะ สนธิกำลังกับตำรวจชุดสืบสวน ภ.จว.บึงกาฬ สภ.หอคำ ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 244 ทหารกองกำลังสุรศักดิ์มนตรีและฝ่ายปกครอง เข้าพื้นที่ดักซุ่ม
จนกระทั่งเวลาประมาณ 3 ทุ่มครึ่ง เจ้าหน้าที่ชุดซุ่มเฝ้าตรวจบริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขง (ด้านใต้ท่าทรายอดิศักดิ์รวี) ได้ใช้กล้องตรวจการณ์กลางคืนตรวจพบเรือกีบจำนวน 1 ลำ บนเรือมีกลุ่มบุคคลประมาณ 4-5 คน นั่งมากับเรือ โดยเรือได้แล่นจากกลางลำน้ำโขง และเข้ามาจอดเทียบฝั่งห่างจากจุดที่ชุดซุ่มเฝ้าตรวจได้ดักซุ่ม ระยะประมาณ 100 เมตร เจ้าหน้าที่ชุดซุ่มเฝ้าตรวจจึงได้ออกจากจุดซุ่ม และเคลื่อนตัวเข้าไปเฝ้าสังเกตพฤติกรรมอย่างใกล้ชิด สักครู่ได้มีรถเก๋งต้องสงสัยวิ่งเข้ามาในสวนยางพาราใกล้กับจุดจอดเรือ กลุ่มชายฉกรรจ์ที่นั่งมาในเรือได้ช่วยกันแบกกระสอบบางอย่างเข้ามาไว้ในรถ เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งไปยังชุดสกัดกั้นปากทางออกปิดล้อมเส้นทางหลบหนี ก่อนแสดงตัวขอตรวจค้น คนขับเรือไหวตัวทันขับเรือแล่นกลับไปยังฝั่งประเทศเพื่อนบ้านทันที เช่นเดียวกับรถเก๋งคนขับเร่งเครื่องหนีออกไปสู่ถนนหลัก สาย 212 แต่ไปเจอกับ จนท.อีกชุดดักรออยู่จึงหยุดรถวิ่งหนีฝ่าความมืดไปได้ ค้นในรถพบกระสอบจำนวน 7 กระสอบบรรจุยาบ้า 3,200,000 เม็ดและเอกสารผู้ครอบครองรถชื่อนายสมสิทธิ์ ปณิฐาภรณ์ อายุ 45 ปี เขตสะพานสูง กรุงเทพฯ กระเป๋าสตังค์ 1 ใบบัตร นศ.กศน.ของนายสุชาติ ปู่ตือ จึงเก็บไว้เป็นหลักฐานเพื่อตรวจสอบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องในคดีหรือไม่
ขณะเดียวกัน เวลา 5 ทุ่มครึ่งได้รับแจ้งจาก ว่าที่ ร.อ.ชนะภัย พันธ์น้อย หน.มว.ทำลายใต้น้ำฯ นรข.อีกชุด ว่าพบรถยนต์กำลังวิ่งลงริมโขง บริเวณท่าทรายร้าง (ท่าทรายเสี่ยท๊อป) บ้านท่าอินทร์แปลง ต.โคกก่อง อ.เมืองบึงกาฬ โดยชุดปฏิบัติการพิเศษ นรข.และชุดปฏิบัติการพิเศษศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดกองทัพเรือ ร่วมกับสถานีเรือบึงกาฬ พบกลุ่มคนกำลังลักลอบนำออกราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย จึงได้แสดงตัวขอตรวจค้น คำตอบที่ได้รับคือเสียงปืนยิงกระหน่ำมาจากกลุ่มชายที่อยู่บนเรือ 2 ลำที่มัดติดกันเป็นแพ โดยใช้ไม้กระดานพาดระหว่างเรือ 2 ลำแล้วบรรทุกรถยนต์ข้ามน้ำโขงไป ฝ่ายเจ้าหน้าที่จึงยิงป้องกันตัวตอบโต้กันไปมาประมาณ 45 นาที นอกจากนั้นบนเกาะกลางน้ำโขงก็ยังมีหน่วยคุ้มกันที่ใช้อาวุธหนักยิงปืนเข้ามาสนับสนุนเพื่อไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้าควบคุมจับกุม เวลาผ่านไปเสียงปืนสงบ จนท.ทุกคนปลอดภัยเข้าเคลียร์พื้นที่ พบรถยนต์เตรียมรถส่งข้ามโขงจอดอยู่ 7 คัน และมี 1 คันที่เล็ดลอดข้ามไปได้ก่อนสำเร็จ จากการข่าวทราบว่า กลุ่มขบวนการทั้งสองที่ค้ายาบ้าและค้ารถยนต์มีความเชื่อมโยงระหว่างกัน คาดว่าจะเป็นกลุ่มขบวนการลักลอบนำรถยนต์ข้ามโขงเพื่อแลกกับยาบ้า ส่วนรถยนต์ 7 คันได้แก่
1.รถยนต์กระบะ 4 ประตู ยี่ห้อ ISUZU สีเทา(ป้ายแดง) หมายเลขทะเบียน ฉ 8672 กรุงเทพมหานคร
2.รถยนต์กระบะตอนครึ่ง ยี่ห้อ TOYOTA สีดำ หมายเลขทะเบียน บธ 429 ภูเก็ต
3.รถยนต์กระบะตอนครึ่ง ยี่ห้อ TOYOTA สีดำ หมายเลขทะเบียน บบ 9648 ชุมพร
4.รถยนต์กระบะ 4 ประตู ยี่ห้อ TOYOTA สีดำ หมายเลขทะเบียน กต 6216 สุพรรณบุรี
5.รถยนต์กระบะ 4 ประตู ยี่ห้อ TOYOTA สีดำ หมายเลขทะเบียน ขข 3707 นครราชสีมา
6.รถยนต์กระบะตอนครึ่ง ยี่ห้อ TOYOTA สีดำ หมายเลขทะเบียน บล 6767 กาฬสินธุ์
7.รถยนต์กระบะตอนครึ่ง ยี่ห้อ TOYOTA สีขาว ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน (พบในสวนยางพารา)
นอกจากนั้นยังพบวิทยุสื่อสาร ยี่ห้อ BAOFENG สีดำ จำนวน 1 เครื่องและกุญแจรถยนต์ จำนวน 4 ดอก (ยี่ห้อ TOYOTA ทั้งหมด ใครเป็นเจ้าของรถนำหลักฐานไปแสดงและขอรับคืนได้ที่ สภ.เมืองบึงกาฬ
ธรรมชาติ ทองบุตดี //ข่าวบึงกาฬ //064-6825978