ผู้ว่าฯ บึงกาฬ หารือข้อสั่งการเร่งด่วน นำเครื่องพ่นน้ำละอองน้ำ บรรเทาฝุ่น PM 2.5 ที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพประชาชน
.
เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 28 มีนาคม 2566 นายนฤชา โฆษาศิวิไลซ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ ประชุมหารือเพื่อสั่งการเร่งด่วน ยกระดับการบรรเทาสถานการณ์และแก้ไขปัญหาหมอกควัน ฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ที่ขณะนี้มีค่าเกินมาตรฐาน และสูงจนถึงระดับสีแดง คือมีผลกระทบต่อสุขภาพของพี่น้องประชาชน ร่วมกับสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดบึงกาฬ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดบึงกาฬ เทศบาลเมืองบึงกาฬ สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดบึงกาฬ สำนักงานขนส่งจังหวัดบึงกาฬ แขวงทางหลวงจังหวัดบึงกาฬ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดบึงกาฬ ตำรวจภูธรจังหวัดบึงกาฬ สำนักงานส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นจังหวัดบึงกาฬ สำนักงานเกษตรจังหวัดบึงกาฬ ประชาสัมพันธ์จังหวัดบึงกาฬ สวท.บึงกาฬ เพื่อเร่งดำเนินการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนชาวบึงกาฬที่ได้รับผลกระทบอยู่ตอนนี้
.
จากนั้นนายนฤชา โฆษาศิวิไลซ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่เพื่อแก้ไขปัญหาและบรรเทาผลกระทบของปัญหาหมอกควัน ฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 โดยเร่งด่วน ด้วยการนำเครื่องพ่นละอองน้ำ ฉีดดักจับฝุ่นทั่วบริเวณถนนข้าวเม่าริมโขง ซึ่งควันส่วนใหญ่ถูกพัดมาจากด้านแม่น้ำโขง พร้อมทั้งให้รถฉีดน้ำล้างถนนบริเวณเขตก่อสร้างเพื่อไม่ให้เกิดฝุ่นควันสะสมในบริเวณตัวเมืองด้วย
.
ในส่วนของการห้ามเผา ผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ ได้เน้นย้ำว่าหากพบเห็นการเผา การทำให้เกิดมลพิษหมอกควัน ให้แจ้งหน่วยงานราชการที่รับผิดชอบในพื้นที่ได้ทันที เช่น ผู้ใหญ่บ้าน กำนัน ตำรวจภูธรจังหวัดบึงกาฬ และหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เข้าไปดำเนินการตามกฎหมายในทันที นอกจากนี้ให้เจ้าหน้าที่ชุดควบคุมไฟป่า และอาสาสมัครทั้งหมด แจ้งชาวบ้าน ทำความเข้าใจกับประชาชนในหมู่บ้านรอบพื้นที่ ว่าในช่วงนี้ห้ามเข้าไปหาของป่า ห้ามจุดไฟเผาป่า และให้ทำแนวกันไฟให้เรียบร้อย พร้อมทั้งติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิดว่ามีเหตุไฟไหม้ป่าในพื้นที่หรือไม่ และแจ้งไปทุกพื้นที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งพื้นที่ป่าสงวน พื้นที่เขตป่าอนุรักษ์ พื้นที่ป่าที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว เขตอุทยานต่างๆ ให้เจ้าหน้าที่เคร่งครัดในการแจ้งนักท่องเที่ยวห้ามจุดไฟหรือสูบบุหรี่โดยเด็ดขาด พร้อมประสานท้องถิ่นที่อยู่ใกล้เคียงให้ทราบโดยทั่วกัน
.
ทั้งนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬได้แสดงความห่วงใย แนะนำให้ประชาชนให้อยู่ในอาคารบ้านเรือนเป็นหลักเพื่อป้องกันการสัมผัสและสูดดมฝุ่นควันมลพิษเข้าสู่ร่างกาย แต่หากจำเป็นต้องออกมาข้างนอกจริงๆ ก็ให้ดูแลตัวเองด้วยการสวมใส่หน้ากากอนามัยป้องกันฝุ่นละอองมลพิษในอากาศ พร้อมขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วน เพราะต้องปฏิบัติหน้าที่กันอย่างเต็มที่ จึงขอให้มีความมุ่งมั่น แข็งขันและมีกำลังแรงกายแรงใจในการร่วมมือกันแก้ปัญหาฝุ่น หมอกควัน มลพิษ ในครั้งนี้ให้สำเร็จราบรื่นไปด้วยดี เพื่อพี่น้องชาวจังหวัดบึงกาฬทุกคน
ขอบคุณข้อมูลบางส่วนจาก สวท.บึงกาฬ